มาเก๊า | มาเก๊าคืออะไร? ประเทศอะไร? อยู่ที่ไหน? วันนี้มาทำความรู้จักกัน!

มาเก๊า (Macau) หรือ เอ้าเหมิน (澳門, Àomén) มีชื่อทางการว่า เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Macao Special Administrative Region of the People’s Republic of China) เป็นพื้นที่บนชายฝั่งทางใต้ของประเทศจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่สำคัญ มาเก๊าเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 และถูกปกครองโดยโปรตุเกสมานานกว่า 400 ปี ก่อนที่อำนาจอธิปไตยจะถูกโอนกลับคืนให้แก่จีนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งทำให้มาเก๊าสามารถรักษาระบบกฎหมาย เศรษฐกิจ และการปกครองของตนเองได้เป็นระยะเวลา 50 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2592

ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกส มาเก๊ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม อาหาร และขนบธรรมเนียมประเพณี ปัจจุบันมาเก๊าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในโลก โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมคาสิโนและความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก ด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ซากโบสถ์เซนต์ปอล จัตุรัสเซนาโด และวัดอาม่า การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของมาเก๊า โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่วัฒนธรรมดั้งเดิมไปจนถึงความหรูหราระดับโลกในคาสิโนและโรงแรมชั้นนำ

มาเก๊า
มาเก๊าดินแดนที่มีเสนห์มากกว่าที่คิด

 

มาเก๊า (Macau) นั้นเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ห่างจากฮ่องกงเพียง 60 กิโลเมตร ที่สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบาย มาเก๊าขึ้นชื่อว่าเป็น “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย” เนื่องจากมีคาสิโนสุดหรูระดับโลกมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน เมืองนี้ยังคงรักษาเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกสที่หลอมรวมกันอย่างลงตัว

มาเก๊า | ตั้งอยู่ที่ไหน?

มาเก๊าเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของประเทศ ติดกับมณฑลกวางตุ้ง (Guangdong) และอยู่ใกล้กับปากแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน มาเก๊าห่างจากฮ่องกงเพียงประมาณ 60 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ด้วยเรือเฟอร์รี่, สะพานข้ามทะเลฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge) หรือเฮลิคอปเตอร์

มาเก๊า
มาเก๊าอยู่ด้านใต้ของจีนและด้านซ้ายของฮ่องกง

 

ลักษณะภูมิศาสตร์ของมาเก๊า

มาเก๊าประกอบไปด้วยพื้นที่หลัก 3 ส่วน ได้แก่

1. คาบสมุทรมาเก๊า (Macau Peninsula) เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว เชื่อมต่อกับเมืองจูไห่ของจีนแผ่นดินใหญ่

2. เกาะไทปา (Taipa Island) ที่ตั้งของสนามบินนานาชาติมาเก๊าและรีสอร์ตคาสิโนขนาดใหญ่

3. เกาะโคโลอาน (Coloane Island) พื้นที่ธรรมชาติและชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบกว่าเขตอื่น ๆ

ปัจจุบัน เกาะไทปาและโคโลอานถูกเชื่อมต่อกันด้วย พื้นที่ถมทะเลโคไท (Cotai Strip) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูและคาสิโนระดับโลก เช่น The Venetian Macao และ Galaxy Macau

มาเก๊า
มาเก๊าประกอบไปด้วยพื้นที่หลัก 3 ส่วน

 

 

ทิศทางการเดินทาง

– ทางเหนือ ติดต่อกับเมืองจูไห่ (Zhuhai) มณฑลกวางตุ้ง

– ทางตะวันออก ติดทะเลจีนใต้ และมีสะพานเชื่อมไปยังฮ่องกง

– ทางตะวันตก เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่จีนผ่านสะพานและด่านข้ามแดน

– ทางใต้ มีเกาะไทปาและโคโลอานที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ

 

มาเก๊า | กับเขตการปกครอง

มาเก๊าแบ่งออกเป็น 8 เขตการปกครองหลัก (Parishes) แต่ละเขตมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองดังนี้:

1. เขตนอสซา เซญญอรา ดี ฟาตีมา (Nossa Senhora de Fátima; 花地瑪堂區) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรมาเก๊า มีประชากรหนาแน่นที่สุดในมาเก๊า และเป็นย่านที่อยู่อาศัยหลักของชาวท้องถิ่น มีตึกสูงและอาคารพักอาศัยจำนวนมาก มีสถานที่สำคัญ เช่น สวนซัน ยัดเซ็น และมหาวิทยาลัยมาเก๊าเดิม

2. เขตซังตูอังตอนิว (Santo António; 花王堂區) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรมาเก๊า เป็นหนึ่งในเขตเก่าแก่ของเมือง มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกสอย่างชัดเจน เช่น โบสถ์ซานโตอันตอนิโอ และบ้านโบราณที่มีเอกลักษณ์ และเป็นที่ตั้งของซากโบสถ์เซนต์ปอล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของมาเก๊า

3. เขตเซาลาซารู (São Lázaro; 望德堂區) เป็นเขตเล็กที่สุดของมาเก๊า แต่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดดเด่นด้วยตรอกซอกซอยที่ให้ความรู้สึกแบบเมืองเก่าของยุโรป และยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพและนักเดินชมเมือง

มาเก๊า
มาเก๊าแบ่งออกเป็น 8 เขตการปกครอง : ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย

 

4. เขตเซาโลวเรงซู (São Lourenço; 風順堂區) ตั้งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรมาเก๊า เป็นที่ตั้งของโบสถ์เซาโลวเรนซู และสถานที่สำคัญเช่น อาคารศาลากลางเก่า รวมถึงมีบรรยากาศแบบเมืองเก่าพร้อมตรอกแคบ ๆ และอาคารสีพาสเทล

5. เขตแซ (Sé; 大堂區) เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของมาเก๊า มีสถานที่สำคัญ เช่น เซนาโดสแควร์ และโบสถ์เซ และเต็มไปด้วยร้านค้า โรงแรม และศูนย์รวมธุรกิจ

6. ไตปา (Taipa; 嘉模堂區) ตั้งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรมาเก๊า เชื่อมต่อกับตัวเมืองผ่านสะพานหลายแห่ง มีแหล่งท่องเที่ยว เช่น หมู่บ้านไทปา และตลาดกลางคืน และเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติมาเก๊า

7. โกไต (Cotai; 路氹填海區) เป็นพื้นที่ถมทะเลที่เชื่อมระหว่างเกาะไทปาและโคโลอาน เป็นศูนย์กลางของคาสิโนและรีสอร์ตหรู เช่น The Venetian Macao และ Galaxy Macau และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

8. โกโลอานี (Coloane; 聖方濟各堂區) เป็นพื้นที่ธรรมชาติของมาเก๊า เต็มไปด้วยภูเขาและชายหาด มีหมู่บ้านโคโลอานที่ยังคงรักษาความเป็นชนบทดั้งเดิมของมาเก๊า และมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดอาม่า และสวนเซอโค

มาเก๊า | ประชากรและศาสนา

มาเก๊ามีประชากรประมาณ 700,000 คน ทำให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุดในโลก ด้วยขนาดพื้นที่เพียง 32.9 ตารางกิโลเมตร ทำให้มาเก๊ามีประชากรหนาแน่นถึงกว่า 21,000 คนต่อตารางกิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่ของมาเก๊ามีเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาคือประชากรที่มีเชื้อสายโปรตุเกส รวมถึงชาวต่างชาติจากประเทศอื่น ๆ ที่มาทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการพนัน

ด้านศาสนา ชาวมาเก๊าส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธและลัทธิเต๋า โดยมีการนับถือเทพเจ้าจีน เช่น เจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าท้องถิ่นต่าง ๆ วัดจีนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พบได้ทั่วไปในมาเก๊า เช่น วัดอาม่า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง นอกจากนี้ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกก็มีอิทธิพลอย่างมาก เนื่องจากมาเก๊าเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส จึงมีโบสถ์และสถาปัตยกรรมแบบยุโรปจำนวนมาก เช่น ซากโบสถ์เซนต์ปอล และโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ ซึ่งยังคงเป็นจุดสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวมาเก๊า

มาเก๊ายังเป็นที่ตั้งของชุมชนศาสนาอื่น ๆ เช่น อิสลาม ฮินดู และศาสนาซิกข์ ซึ่งแม้จะมีประชากรน้อยกว่าแต่ก็มีสถานที่ประกอบพิธีกรรมอยู่ในเขตเมือง ชาวมาเก๊าโดยทั่วไปมีความอดทนและเปิดกว้างต่อความเชื่อต่าง ๆ ทำให้เมืองนี้เป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันระหว่างศาสนาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย

มาเก๊า | ประวัติศาสตร์

1. ยุคก่อนอาณานิคม (ก่อนศตวรรษที่ 16)

มาเก๊า เคยเป็นพื้นที่ที่ชาวจีนพื้นเมืองใช้เป็นแหล่งตั้งถิ่นฐานมานานหลายศตวรรษก่อนที่ชาวยุโรปจะเดินทางเข้ามาในภูมิภาคนี้ บริเวณดังกล่าวตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีน มีอากาศอบอุ่นและเหมาะแก่การทำการประมง ชุมชนดั้งเดิมของมาเก๊าประกอบไปด้วยชาวจีนฮั่นที่ประกอบอาชีพประมง เกษตรกรรม และค้าขายกับชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องแคบของจีนตอนใต้ การตั้งถิ่นฐานเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการค้าทางทะเลที่เฟื่องฟูในยุคโบราณของจีน ซึ่งเชื่อมต่อจีนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง

มาเก๊า
มาเก๊า เคยเป็นพื้นที่ที่ชาวจีนพื้นเมืองมานานหลายศตวรรษ

มาเก๊ามีบทบาทสำคัญในฐานะจุดพักพิงของพ่อค้าชาวจีนและชาวต่างชาติที่เดินทางค้าขายระหว่างเมืองชายฝั่งทางใต้ของจีนและดินแดนโพ้นทะเล แม้ว่าจะไม่ได้เป็นศูนย์กลางการค้าขนาดใหญ่เหมือนเมืองกวางตุ้งหรือหางโจว แต่มาเก๊ามีข้อได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้ง ซึ่งทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินเรือและพักสินค้า สินค้าที่มีการแลกเปลี่ยนกันในยุคก่อนอาณานิคม ได้แก่ เครื่องเทศ ผ้าไหม เซรามิก และโลหะมีค่า โดยชาวจีนใช้มาเก๊าเป็นจุดกระจายสินค้าก่อนส่งไปยังประเทศอื่น ๆ ผ่านเส้นทางทางทะเล

ในยุคก่อนศตวรรษที่ 16 มาเก๊ายังเป็นที่ตั้งของวัดและศาลเจ้าหลายแห่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญ วัดอาม่า (A-Ma Temple) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพธิดาแห่งท้องทะเล ซึ่งชาวประมงและกะลาสีเรือให้ความเคารพนับถือ การมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและความเชื่อในชีวิตประจำวันของชาวมาเก๊าโบราณ ซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง

แม้ว่ามาเก๊าจะเป็นเพียงจุดพักสินค้าและชุมชนชาวประมงในช่วงแรก แต่เมื่อชาวยุโรปเริ่มเดินทางเข้ามายังภูมิภาคเอเชียในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 และต้นศตวรรษที่ 16 บทบาทของมาเก๊าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การมาถึงของชาวโปรตุเกสในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ส่งผลให้มาเก๊ากลายเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งขึ้นในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคอาณานิคมโปรตุเกสที่ยาวนานกว่า 400 ปี

มาเก๊า
มาเก๊าเป็นจุดพักสินค้าและชุมชนชาวประมงในช่วงแรกๆ

 

 

2. ยุคอาณานิคมโปรตุเกส (ศตวรรษที่ 16 – 1999)

โปรตุเกสเริ่มเข้ามามีบทบาทในมาเก๊าตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 หลังจากพ่อค้าชาวโปรตุเกสเริ่มติดต่อค้าขายกับจีน  **ในปี ค.ศ. 1557 โปรตุเกสได้รับอนุญาตจากราชวงศ์หมิงให้ตั้งสถานีการค้าในมาเก๊า โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แก่จีน มาเก๊าจึงกลายเป็นอาณานิคมแห่งแรกของยุโรปในเอเชียตะวันออก และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และยุโรป นอกจากนี้ โปรตุเกสยังใช้มาเก๊าเป็นจุดพักพิงระหว่างการเดินทางไปยังดินแดนอาณานิคมอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น โกอา และมะละกา

มาเก๊า
โปรตุเกสเริ่มเข้ามามีบทบาทในมาเก๊าตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16

ในทางประวัติศาสตร์นั้น คำว่า “อาณานิคม” (colony) มักหมายถึงดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของมหาอำนาจต่างชาติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การเข้าครอบครองอาณานิคมอาจเกิดขึ้นจากการใช้กำลังทหารหรือการเข้ายึดครองโดยสมัครใจภายใต้ข้อตกลงทางการเมืองและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม กรณีของมาเก๊ามีความแตกต่างจากอาณานิคมแบบดั้งเดิมที่ถูกยึดครองโดยกำลังทหาร เช่นที่อังกฤษทำกับอินเดีย หรือสเปนทำกับฟิลิปปินส์

เหตุใดโปรตุเกสจึงถือว่ามาเก๊าเป็นอาณานิคม?
  1. โปรตุเกสได้รับสิทธิ์ใช้มาเก๊าภายใต้ข้อตกลงกับราชวงศ์หมิง ในปี ค.ศ. 1557 โปรตุเกสได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิจีนให้ตั้งสถานีการค้าในมาเก๊า โดยจ่ายค่าธรรมเนียมแก่จีน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ การเช่าดินแดน มากกว่าการยึดครองแบบใช้กำลังทหาร แต่อย่างไรก็ตาม โปรตุเกสเริ่มมีอำนาจปกครองตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ จัดตั้งระบบบริหารของตนเอง และลดอิทธิพลของจีนในการกำกับดูแลพื้นที่นี้
  2. โปรตุเกสควบคุมการปกครองภายในของมาเก๊า แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้จีน แต่โปรตุเกสมีอำนาจควบคุมด้านการบริหาร การปกครอง และกฎหมายในมาเก๊าเองโดยแทบไม่มีการแทรกแซงจากราชสำนักหมิง และโปรตุเกสยังได้แต่งตั้งข้าหลวงปกครองมาเก๊า (Governor of Macau) และสร้างระบบการปกครองแบบยุโรป รวมถึงนำศาสนาคริสต์คาทอลิกเข้ามาเผยแผ่
  3. โปรตุเกสเสริมสร้างอำนาจทางทหารในมาเก๊า แม้ว่ามาเก๊าจะไม่ได้ถูกยึดด้วยกำลัง แต่โปรตุเกสได้สร้างป้อมปราการและกำแพงเมืองเพื่อป้องกันการโจมตีจากโจรสลัดและมหาอำนาจอื่น เช่น ดัตช์ ที่พยายามเข้ายึดมาเก๊าในศตวรรษที่ 17 โดยกองทัพโปรตุเกสมีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงของมาเก๊าและควบคุมทางเดินเรือสำคัญในภูมิภาค
  4. โปรตุเกสประกาศอธิปไตยเหนือมาเก๊าในภายหลัง แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยสถานะกึ่งอิสระภายใต้จีน แต่ในปี ค.ศ. 1887 โปรตุเกสประกาศให้มาเก๊าเป็นอาณานิคมของตนเองอย่างเป็นทางการ ผ่าน สนธิสัญญาปักกิ่ง (Treaty of Peking) ที่ลงนามกับราชวงศ์ชิง ซึ่งระบุว่าจีนต้องยอมรับอำนาจของโปรตุเกสเหนือมาเก๊าโดยสมบูรณ์ และนี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มาเก๊าไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานีการค้า แต่กลายเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

” แม้ว่าการเข้ามาของโปรตุเกสในมาเก๊าจะไม่ใช่การยึดครองโดยกำลังทหารแบบที่เกิดขึ้นกับอาณานิคมอื่น ๆ แต่โปรตุเกสสามารถสถาปนาอำนาจปกครองของตนเองเหนือมาเก๊าได้เป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในศตวรรษที่ 19 นี่จึงเป็นเหตุผลที่มาเก๊าถูกจัดว่าเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส “

 

ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17-18 มาเก๊ารุ่งเรืองอย่างมากจากการค้าทางทะเล โดยเฉพาะการค้ากับญี่ปุ่นและอินเดีย อย่างไรก็ตาม เมื่ออังกฤษเข้ายึดฮ่องกงในปี ค.ศ. 1842 ภายหลังสงครามฝิ่นครั้งแรก บทบาทของมาเก๊าในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศก็เริ่มลดลง เนื่องจากฮ่องกงได้รับการพัฒนาให้เป็นท่าเรือหลักแทน นอกจากนี้ จีนยังเริ่มลดบทบาทของโปรตุเกสในมาเก๊า ทำให้เมืองเริ่มมีความสำคัญลดลง

มาเก๊า
ช่วงศตวรรษที่ 17-18 มาเก๊ารุ่งเรืองอย่างมากจากการค้าทางทะเล

 

ในปี ค.ศ. 1887 โปรตุเกสประกาศให้มาเก๊าเป็นอาณานิคมของตนโดยสมบูรณ์ผ่านสนธิสัญญากับราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โปรตุเกสพยายามขยายอำนาจในดินแดนแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม การปกครองของโปรตุเกสในมาเก๊าไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่จากรัฐบาลจีน หลังจากจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสาธารณรัฐในปี ค.ศ. 1911 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับโปรตุเกสในมาเก๊าก็เปลี่ยนแปลงไป โดยจีนเริ่มกดดันให้โปรตุเกสคืนดินแดนมาเก๊า

ตลอดช่วงศตวรรษที่ 20 มาเก๊าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น สงครามโลกครั้งที่สองและสงครามกลางเมืองจีน อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1987 โปรตุเกสและจีนได้ลงนามในข้อตกลงคืนมาเก๊าให้แก่จีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1999 หลังจากการส่งคืน มาเก๊ากลายเป็นเขตบริหารพิเศษของจีนภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ทำให้เมืองยังคงมีระบบเศรษฐกิจและการปกครองเป็นของตนเองจนถึงปี พ.ศ. 2592

มาเก๊า
มาเก๊าในช่วงที่โปรตุเกสปกครอง
มาเก๊า
สภาพบ้านเมืองของมาเก๊าในช่วงที่โปรตุเกสปกครอง
มาเก๊า
สภาพเรือของชาวบ้านในมาเก๊า

 

3. ยุคส่งคืนมาเก๊าสู่จีน (1999 – ปัจจุบัน)

ในปี ค.ศ. 1987 จีนและโปรตุเกสได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการส่งคืนมาเก๊าให้กับจีน ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดว่ามาเก๊าจะกลายเป็นเขตบริหารพิเศษของจีนภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งหมายความว่ามาเก๊าจะยังคงมีระบบกฎหมาย เศรษฐกิจ และการปกครองของตนเองเป็นเวลา 50 ปีหลังจากการส่งคืน ข้อตกลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางเดียวกันกับที่ใช้ในกรณีของฮ่องกง ซึ่งถูกส่งคืนให้จีนจากอังกฤษในปี ค.ศ. 1997

มาเก๊า
ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1999 มาเก๊าถูกส่งคืนให้แก่จีนอย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1999 มาเก๊าถูกส่งคืนให้แก่จีนอย่างเป็นทางการ พิธีการส่งคืนจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยมีผู้นำจากทั้งจีนและโปรตุเกสเข้าร่วม หลังจากการส่งคืน การบริหารของมาเก๊าถูกถ่ายโอนจากรัฐบาลโปรตุเกสไปยังรัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊า โดยมีหัวหน้าคณะบริหารเขตบริหารพิเศษเป็นผู้นำในการปกครองภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลกลางของจีน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนมีข้อกำหนดว่าต้องไม่แทรกแซงในระบบเศรษฐกิจและกฎหมายของมาเก๊า ทำให้เมืองยังคงมีเสรีภาพทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ

หลังจากกลับสู่จีน มาเก๊าได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมคาสิโนและการท่องเที่ยว ซึ่งกลายเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจเมือง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลจีน มาเก๊าได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (Hong Kong-Zhuhai-Macau Bridge) และเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก การเปิดเสรีอุตสาหกรรมคาสิโนในปี ค.ศ. 2002 ทำให้เกิดรีสอร์ทและคาสิโนระดับโลกจำนวนมาก เช่น The Venetian Macao และ Galaxy Macau ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองให้เติบโตอย่างรวดเร็ว

มาเก๊า
หลังจากกลับสู่จีน มาเก๊าได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมคาสิโนและการท่องเที่ยว

 

ปัจจุบัน มาเก๊ายังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก และเป็นเมืองที่มี GDP ต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่มาเก๊าต้องเผชิญในอนาคตคือการลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมการพนันและกระจายเศรษฐกิจไปสู่ภาคธุรกิจอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยี การเงิน และวัฒนธรรม เพื่อให้การเติบโตของเมืองเป็นไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

มาเก๊า | ใช้เงินอะไรและสกุลเงินที่ใช้ในมาเก๊า

ในอดีต มาเก๊าใช้เงินหลากหลายรูปแบบเนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ในช่วงแรกของการค้าทางทะเลในศตวรรษที่ 16-17 เงินที่ใช้ในมาเก๊าประกอบไปด้วยเงินจีน เช่น เหรียญเงินตำลึง และเงินต่างชาติ เช่น เงินดอลลาร์สเปน ซึ่งได้รับความนิยมมากจากการค้าขายกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังมีการใช้ เงินเรอีสของโปรตุเกส (Portuguese Réis) ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้กันในจักรวรรดิโปรตุเกส อย่างไรก็ตาม ระบบเงินในมาเก๊ายังคงหลากหลายและไม่มีสกุลเงินที่เป็นมาตรฐานชัดเจน

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 มาเก๊าเริ่มพัฒนาเศรษฐกิจของตัวเองมากขึ้น ทำให้รัฐบาลโปรตุเกสในมาเก๊าออก เงินดอลลาร์มาเก๊า (Macanese Pataca, MOP) ขึ้นมาใช้แทนเงินเรอีส และเริ่มเป็นสกุลเงินหลักของดินแดนนี้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1906 เงินปาตากาได้รับการกำกับดูแลโดย ธนาคารแห่งประเทศจีน สาขามาเก๊า (Bank of China, Macau Branch) และถูกตรึงมูลค่ากับเงินฮ่องกง ซึ่งทำให้เงินมาเก๊ามีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้น ปัจจุบัน 1 ปาตากา (MOP) มีมูลค่าประมาณ 0.97 ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) และสามารถใช้แทนกันได้ในบางสถานที่ในมาเก๊า อย่างไรก็ตาม ร้านค้าและธุรกิจในมาเก๊าส่วนใหญ่มักจะรับเงินฮ่องกงควบคู่ไปกับเงินปาตากา เนื่องจากฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของมาเก๊า

มาเก๊า
1 ปาตากา (MOP) มีมูลค่าเท่ากับ4.214บาท

 

ปัจจุบัน มาเก๊าใช้ เงินปาตากา (MOP) เป็นสกุลเงินหลัก โดยมีธนบัตรและเหรียญที่ออกโดยรัฐบาลมาเก๊าเอง อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมาเก๊ายังคงสามารถใช้ เงินฮ่องกง (HKD) ได้อย่างกว้างขวางโดยไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินล่วงหน้า ในขณะที่เงินหยวนจีน (CNY) ก็สามารถใช้ได้ในบางสถานที่ แต่ไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าเงินฮ่องกง มาเก๊ายังคงรักษาระบบเศรษฐกิจแบบเปิด ทำให้สกุลเงินหลายชนิดสามารถหมุนเวียนได้อย่างเสรี นี่เป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและคาสิโนของมาเก๊าให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

มาเก๊า | สภาพอากาศ

มาเก๊าตั้งอยู่ในเขตมรสุมกึ่งร้อนชื้น (Humid Subtropical Climate) มีอากาศอบอุ่นตลอดปี โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมที่ทำให้มีฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยทั่วไป มาเก๊ามี 4 ฤดูหลัก ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ

– ฤดูร้อน (มิถุนายน – กันยายน) เป็นช่วงที่อากาศร้อนชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26-34°C มีความชื้นสูงและฝนตกบ่อย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นพัดเข้ามาบ่อยครั้ง นักท่องเที่ยวควรเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนเมื่อเดินทางมาในช่วงนี้

– ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม – ธันวาคม) เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 18-28°C และมีความชื้นต่ำ ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะไม่มีฝนตกหนักและไม่ร้อนจัด

– ฤดูหนาว (มกราคม – กุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่อากาศเย็นที่สุดของปี อุณหภูมิอาจลดลงถึง 10°C หรือในบางวันอาจต่ำกว่านั้น แม้ว่าหิมะจะไม่ตกในมาเก๊า แต่ลมจากทางเหนืออาจทำให้อากาศรู้สึกหนาวขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิอยู่ที่ 15-25°C ความชื้นจะเริ่มสูงขึ้น และมีฝนตกบางครั้ง เป็นช่วงที่ต้นไม้และดอกไม้เริ่มผลิบาน ทำให้บรรยากาศสดชื่น เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวชมเมือง

” เนื่องจากมาเก๊าอยู่ติดชายฝั่งทะเล สภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวควรเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่น นอกจากนี้ การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเยือนจะช่วยให้การท่องเที่ยวในมาเก๊าสะดวกและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น “

มาเก๊า | โซนเวลา

มาเก๊าใช้ เวลาในเขตมาตรฐานประเทศจีน (China Standard Time – CST, UTC+8) ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน มาเก๊าไม่มีการปรับเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) ทำให้เวลาของมาเก๊าคงที่ตลอดทั้งปี เมื่อเทียบกับเวลาสากล มาเก๊าเร็วกว่ากรีนิช (GMT) 8 ชั่วโมง และเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศอื่น ๆ ควรปรับนาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นเมื่อเดินทางถึงมาเก๊าเพื่อความสะดวกในการวางแผนกิจกรรม

 

” มาเก๊ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ตั้งแต่การเป็นหมู่บ้านชาวประมง ไปจนถึงการเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส และการกลับคืนสู่จีน ปัจจุบันมาเก๊าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการพนันที่สำคัญที่สุดในโลก โดยยังคงรักษาวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของทั้งจีนและโปรตุเกสไว้อย่างลงตัว “

มาเก๊าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยประวัติศาสตร์ที่หลอมรวมวัฒนธรรมจีนและโปรตุเกสเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงเป็นศูนย์กลางด้านคาสิโนและความบันเทิงระดับโลก ด้วยสภาพอากาศแบบมรสุมกึ่งร้อนชื้นที่อบอุ่นตลอดทั้งปี และโซนเวลาที่สอดคล้องกับจีนแผ่นดินใหญ่ มาเก๊าจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่สะดวกและน่าสนใจสำหรับนักเดินทางทั่วโลก นอกจากนี้ ระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการใช้สกุลเงินปาตากาควบคู่ไปกับดอลลาร์ฮ่องกง ทำให้การท่องเที่ยวและธุรกิจในมาเก๊ามีความสะดวกและคล่องตัว

มาเก๊า หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว มาเก๊าคือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ อาหารที่มีเอกลักษณ์ และบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน มาเก๊าไม่เพียงเป็นศูนย์กลางของคาสิโนระดับโลก แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะมาค้นหาประสบการณ์ด้านวัฒนธรรม หรือสัมผัสกับบรรยากาศอันหรูหรา มาเก๊ามีทุกอย่างที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

>> ที่เที่ยวมาเก๊าครบๆ ในปี 2025 คลิก

>> พิกัดเที่ยวต่อที่ฮ่องกง ครบๆ คลิก

>>ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ช่องทางนี้ คลิก

“เรามุ่งมั่นที่จะทำทัวร์ท่องเที่ยวให้แตกต่างจากทั่วไป สถานที่ที่คุณจะได้ไปนั้นนอกจากจะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปกับเราแล้วเรายังเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณอีกด้วย กับแผนการเดินทางที่แตกต่างและไม่จำเจเหมือนกับทั่วๆไป อีกทั้งคุณยังได้รับการดูแลและมีบริการที่แตกต่าง ให้คุณเปรียบเสมือนคนพิเศษ ให้ได้รู้สึกสัมผัสการไปเที่ยวไม่เหมือนใคร และจะประทับใจแบบไม่มีทางลืมได้เลย..” คุณสามารถติดต่อหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เพื่อเลือกเคมเปญที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ

💬 ติดต่อเราได้เลย!

        • โทรด่วนได้ที่ 082-036-5184
        • ส่งภาพหน้างานและพูดคุยได้ที่ Line
          เพิ่มเพื่อน
        • Email : spregaltravel@hotmail.com
        • ติดตามเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/spregaltravel/