เกาะฟู้โกว๊ก | เกาะสวรรค์ของเวียดนามใต้ เต็มไปด้วยชายหาดสวย อาหารทะเลสด และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
เกาะฟู้โกว๊ก ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส และวิถีชีวิตชาวประมงที่เรียบง่าย ที่นี่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการพักผ่อนสุดชิล แต่ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งดำน้ำ ชมพระอาทิตย์ตก ลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ และเที่ยวสวนสนุกระดับโลก หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบเครื่องทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และความสนุก ฟู้โกว๊กคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด
เกาะฟู้โกว๊ก (Phu Quoc) | ประวัติ
1. ภูมิศาสตร์และลักษณะทางกายภาพ
เกาะฟู้โกว๊ก (Phu Quoc) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ห่างจากชายฝั่งจังหวัดเกียนยาง (Kien Giang) ประมาณ 45 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับประเทศกัมพูชามากกว่าฝั่งเวียดนามเอง เกาะมีพื้นที่ประมาณ 574 ตารางกิโลเมตร มีแนวชายฝั่งยาวกว่า 150 กิโลเมตร เต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม ป่าฝนเขตร้อน และเทือกเขาสลับซับซ้อน นอกจากนี้เกาะฟู้โกว๊กยังเป็นเกาะหลักของหมู่เกาะฟู้โกว๊ก ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่อีกกว่า 22 เกาะ ตั้งอยู่ในทะเลเวียดนามตอนใต้



2. ประวัติศาสตร์ของเกาะฟู้โกว๊ก
ยุคก่อนอาณานิคมและอารยธรรมโบราณ เกาะฟู้โกว๊กมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนพื้นเมือง อาณาจักรฟูนาน (Funan Kingdom) ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณที่รุ่งเรืองในภูมิภาคอินโดจีน นอกจากนี้ยังพบซากโบราณวัตถุและศิลปะจากอาณาจักรฟูนาน เช่น เครื่องปั้นดินเผา และ รูปสลักหิน ที่พิสูจน์ว่าฟู้โกว๊กเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าทางทะเลโบราณ
ยุคอาณานิคมและสงคราม ในศตวรรษที่ 17-18 ฟู้โกว๊กเป็นศูนย์กลางการเดินเรือและการค้าทะเลของพ่อค้าชาวจีน เวียดนาม และชาวยุโรป พอมาถึงในศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสก็เข้ายึดครองเวียดนาม ฟู้โกว๊กจึงกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศส และมีการสร้างเรือนจำฟู้โกว๊ก (Phu Quoc Prison) ขึ้นในช่วงอาณานิคม ต่อมาในช่วงสงครามเวียดนาม (1955-1975) ฟู้โกว๊กถูกใช้เป็นที่ตั้งค่ายกักกันเชลยศึกขนาดใหญ่ที่มีนักโทษทางการเมืองและนักโทษสงครามมากกว่า 40,000 คน
3. ฟู้โกว๊กในยุคปัจจุบัน
เศรษฐกิจและการพัฒนา หลังสงครามเวียดนาม ฟู้โกว๊กเริ่มพัฒนาขึ้นจากหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเวียดนาม อุตสาหกรรมหลักของเกาะคือ การท่องเที่ยว, การประมง, การเพาะเลี้ยงไข่มุก และการผลิตน้ำปลา นอกจากนี้ฟู้โกว๊กยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิต น้ำปลาชั้นดี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับการรับรองจาก UNESCO ว่าเป็น น้ำปลามรดกทางวัฒนธรรม
สถานะพิเศษ ปี 2014 ฟู้โกว๊กได้รับการประกาศให้เป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ของเวียดนาม ทำให้ดึงดูดการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ และในปี 2018 เวียดนามเปิดสนามบินนานาชาติฟู้โกว๊ก ทำให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

4. วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของฟู้โกว๊ก
ฟู้โกว๊ก กับวัฒนธรรมผสมผสาน
เกาะฟู้โกว๊กเป็นดินแดนที่มี วัฒนธรรมผสมผสาน จากหลากหลายเชื้อชาติ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับกัมพูชาและเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลมาตั้งแต่อดีต ทำให้ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรม เวียดนาม จีน และเขมร อย่างชัดเจน ด้านศิลปะและสถาปัตยกรรม เราจะพบเห็นศาลเจ้าและวัดจีนอยู่ร่วมกับวัดเวียดนาม รวมถึงบ้านเรือนที่มีสไตล์ก่อสร้างแบบดั้งเดิมผสมกับสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส อาหารท้องถิ่นของฟู้โกว๊กก็สะท้อนถึงความหลากหลายนี้ เช่น เฝอ (Phở) และบั๋ญแซ่ว (Bánh Xèo) ของเวียดนาม, ก๋วยเตี๋ยวสไตล์จีน และอาม็อก (Amok) อาหารกัมพูชาที่ใช้เครื่องแกงมะพร้าว นอกจากนี้ เทศกาลท้องถิ่นหลายแห่ง เช่น ตรุษเวียดนาม (Tet Festival) และพิธีกรรมบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ก็เป็นตัวอย่างของการผสมผสานวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้เกาะฟู้โกว๊กเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องราวของชุมชนชายฝั่งทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฟู้โกว๊ก กับเทศกาลสำคัญ
– Tet Festival ตรุษเวียดนาม (Tết Nguyên Đán) เป็นเทศกาลปีใหม่ที่สำคัญที่สุดของเวียดนาม ซึ่งกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ โดยมักจะตรงกับช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ บนเกาะฟู้โกว๊ก เทศกาลนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของความสุขและการเฉลิมฉลอง ชาวบ้านจะทำความสะอาดบ้านเรือน ประดับโคมไฟสีแดง และจัดเตรียมอาหารพิเศษ เช่น บั๊ญจึง (Bánh chưng)ซึ่งเป็นขนมเค้กข้าวเหนียวไส้ถั่วและหมู ตลอดช่วงเทศกาล ผู้คนจะแวะเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ มอบอั่งเปา (Lì xì) ให้เด็ก ๆ และร่วมทำพิธีขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ นอกจากนี้ ฟู้โกว๊กยังมีการจุดพลุและงานเฉลิมฉลองริมชายหาด ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมปีใหม่ของเวียดนาม
– เทศกาลแข่งเรือมังกร เทศกาลแข่งเรือมังกรเป็นหนึ่งในประเพณีที่สำคัญของชาวประมงในฟู้โกว๊ก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณเทพเจ้าท้องทะเลและขอพรให้ปีนั้นมีการทำประมงที่อุดมสมบูรณ์ โดยเทศกาลนี้มักจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมของทุกปี ชาวบ้านจะรวมตัวกันที่ชายหาด นำเรือไม้ขนาดยาวที่ตกแต่งลวดลายมังกรลงแข่งขันกันกลางทะเล โดยมีผู้พายจำนวนมากที่ต้องใช้จังหวะและความสามัคคีเพื่อให้เรือเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด นอกจากการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นแล้ว เทศกาลนี้ยังเป็นโอกาสสำหรับชุมชนท้องถิ่นในการรวมตัวเฉลิมฉลองร่วมกัน พร้อมดนตรีพื้นบ้าน การแสดงเชิดสิงโต และการเลี้ยงอาหารทะเลฟรีให้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน
– พิธีกรรมบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พิธีบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล (Lễ cúng Cá Ông) เป็นพิธีกรรมสำคัญของชาวประมงฟู้โกว๊กที่มีความเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งท้องทะเล หรือ Cá Ông (วาฬศักดิ์สิทธิ์) เป็นผู้ปกป้องและให้โชคแก่ชาวประมง พิธีนี้มักจัดขึ้นในช่วงต้นปีหรือก่อนฤดูประมง โดยชาวบ้านจะนำของเซ่นไหว้ เช่น อาหาร ผลไม้ และธูปเทียน ไปทำพิธีที่ศาลเจ้าริมชายฝั่ง พวกเขาจะร่วมกันสวดมนต์เพื่อขอให้มีปลาจำนวนมากในปีนั้น รวมถึงปกป้องชาวประมงจากอันตรายในทะเล นอกจากนี้ยังมีการล่องเรือไปยังจุดที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้า เพื่อนำเครื่องบูชาไปลอยน้ำ พิธีกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและท้องทะเล แต่ยังเป็นโอกาสที่ชาวประมงจะรวมตัวกัน เสริมสร้างความสามัคคีในชุมชนอีกด้วย
” เกาะฟู้โกว๊กเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ จากอดีตที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในสงครามและศูนย์กลางการค้าทะเล สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานทั้ง ธรรมชาติ วิถีชีวิตดั้งเดิม และสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ฟู้โกว๊กคือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ “
เกาะฟู้โกว๊ก | การเดินทาง
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากไทยสามารถเดินทางไป เกาะฟู้โกว๊ก ได้สะดวกขึ้น เนื่องจาก ไทยแอร์เอเชีย (Thai AirAsia) มี เที่ยวบินตรงจากสนามบินดอนเมือง (DMK) ไปยังสนามบินนานาชาติฟู้โกว๊ก (PQC) โดยใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเดินทางโดย ต่อเครื่องในเวียดนาม ผ่าน โฮจิมินห์ซิตี้ (SGN) หรือฮานอย (HAN) ก่อนบินต่อไปยังฟู้โกว๊ก นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ ยังสามารถเลือกเดินทาง ทางบกและทางเรือ โดยนั่งรถจากโฮจิมินห์หรือเมืองใกล้เคียงไปยัง ฮาเตียน (Ha Tien) หรือ รัชซา (Rach Gia) แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2.5 ชั่วโมง แม้ว่าเส้นทางทางบกจะใช้เวลานานกว่า แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นระหว่างทาง
เกาะฟู้โกว๊ก | ภูมิอากาศ (Phu Quoc Climate)
เกาะฟู้โกว๊กตั้งอยู่ในเขต ภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน (Tropical Monsoon Climate) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากทะเลและลมมรสุมตลอดทั้งปี ทำให้อากาศอบอุ่นชื้น มีฤดูกาลหลัก 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูแล้งและฤดูฝน
1. ฤดูแล้ง (Dry Season) – พฤศจิกายนถึงเมษายน
ฤดูแล้งของเกาะฟู้โกว๊กเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจาก อากาศแห้ง ท้องฟ้าแจ่มใส และน้ำทะเลใสสะอาด
- อุณหภูมิ อยู่ระหว่าง 25-30°C โดยมีอากาศเย็นสบายในช่วงเช้าและเย็น
- ความชื้นสัมพัทธ์ ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับฤดูฝน ประมาณ 60-70%
- ปริมาณฝน น้อยมากหรือแทบไม่มีฝน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 10-50 มม./เดือน
- ทิศทางลม ได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeast Monsoon) ทำให้มีลมพัดเย็นจากแผ่นดินใหญ่ลงมา
🔹 สภาพอากาศในแต่ละเดือน
- พฤศจิกายน – ธันวาคม เริ่มเข้าฤดูแล้ง อากาศเย็นสบาย ชายหาดเริ่มใส
- มกราคม – กุมภาพันธ์ ช่วงที่อากาศดีที่สุด อุณหภูมิประมาณ 26°C
- มีนาคม – เมษายน เริ่มร้อนขึ้น อุณหภูมิอาจแตะ 32°C
✅ กิจกรรมที่เหมาะกับฤดูนี้
- ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก (Snorkeling & Scuba Diving)
- พายเรือคายัคและเจ็ตสกี
- เที่ยวหาดสวย เช่น หาดซาโอ (Sao Beach) และ หาดลองบีช (Long Beach)
- นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปเกาะฮอนทอม (Hon Thom Cable Car)
2. ฤดูฝน (Rainy Season) – พฤษภาคมถึงตุลาคม
ฤดูฝนของเกาะฟู้โกว๊กเกิดจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon) ที่พัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย นำมาซึ่ง ฝนตกชุก อากาศชื้น และคลื่นลมแรง
- อุณหภูมิ อยู่ระหว่าง 26-31°C มีอากาศเย็นขึ้นหลังฝนตก
- ความชื้นสัมพัทธ์ สูงมากถึง 85-90% ทำให้อากาศร้อนอบอ้าว
- ปริมาณฝน เฉลี่ย 200-400 มม./เดือน โดยกันยายนเป็นเดือนที่ฝนตกหนักที่สุด
- ทิศทางลม ได้รับอิทธิพลจากลมทะเลทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองบางช่วง
🔹 สภาพอากาศในแต่ละเดือน
- พฤษภาคม – มิถุนายน เริ่มมีฝนตกประปราย อุณหภูมิยังคงร้อน
- กรกฎาคม – สิงหาคม ฝนตกหนักขึ้น น้ำทะเลขุ่นและคลื่นลมแรง
- กันยายน – ตุลาคม จุดสูงสุดของฤดูฝน ฝนตกหนักและมีโอกาสเกิดพายุ
❌ ข้อควรระวังในฤดูฝน
- คลื่นทะเลสูง ทำให้การเดินเรือไปเกาะเล็กๆ อาจมีความเสี่ยง
- น้ำทะเลขุ่น ไม่เหมาะกับการดำน้ำ
- ฝนตกหนักบางช่วงอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่
✅ กิจกรรมที่ทำได้ในฤดูนี้
- เที่ยวชม ตลาดกลางคืนฟู้โกว๊ก และลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ
- เยี่ยมชม โรงงานผลิตน้ำปลา และฟาร์มไข่มุก
- เที่ยว สวนสัตว์ Vinpearl Safari ที่มีหลังคากันฝน
3. เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะฟู้โกว๊ก
☀ ช่วงที่ดีที่สุด พฤศจิกายน – เมษายน (ฤดูแล้ง) อากาศดี น้ำทะเลใส ชายหาดสวย
☁ ช่วงที่ควรหลีกเลี่ยง กันยายน – ตุลาคม (ฝนตกหนัก คลื่นแรง ไม่ปลอดภัยต่อการเดินทางทางเรือ)
” เกาะฟู้โกว๊กมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน แบ่งเป็น 2 ฤดูหลัก คือ
🌞 ฤดูแล้ง (พ.ย.-เม.ย.) เหมาะกับการท่องเที่ยว อากาศเย็นสบาย น้ำทะเลใส
🌧️ ฤดูฝน (พ.ค.-ต.ค.) ฝนตกหนัก คลื่นแรง ไม่เหมาะกับกิจกรรมทางทะเลหากคุณต้องการเที่ยวเกาะฟู้โกว๊กแบบเต็มอิ่ม ควรเดินทางระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เพื่อสัมผัสความสวยงามของชายหาดและอากาศที่ดีที่สุด “
เกาะฟู้โกว๊ก | 15 ที่เที่ยวเกาะฟู้โกว๊กที่ต้องไป
1. ซันเวิลด์ ฮอนทอม เนเจอร์พาร์ค (Sun World Hon Thom Nature Park)
ซันเวิลด์ ฮอนทอม เนเจอร์พาร์ค เป็นหนึ่งในสวนสนุกกลางทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่บนเกาะฮอนทอม (Hon Thom) ซึ่งสามารถเดินทางไปได้โดย กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก (Hon Thom Cable Car) เมื่อมาถึง คุณจะได้พบกับเครื่องเล่นมากมาย รวมถึง Aquatopia Water Park สวนน้ำธีมโจรสลัดที่เต็มไปด้วยสไลเดอร์และกิจกรรมทางน้ำสำหรับทุกวัย บรรยากาศของที่นี่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่ต้องการผจญภัยในสวรรค์แห่งท้องทะเล
นอกจากสวนน้ำและเครื่องเล่นแล้ว ฮอนทอมยังมีชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสสะอาด คุณสามารถนั่งชิลล์ริมชายหาด เล่นน้ำ หรือลองดำน้ำตื้น (snorkeling) เพื่อชมแนวปะการังและฝูงปลาหลากสี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมทะเลที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่และอาหารเวียดนามรสเลิศ ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ครบครันสำหรับทั้งการพักผ่อนและความสนุกสนาน

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่บนเกาะฮอนทอม เดินทางโดย กระเช้าลอยฟ้าฮอนทอม (Hon Thom Cable Car) จากสถานีที่อันโทย (An Thoi) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 08:00 – 17:30 น.
2. วินเพิร์ล ซาฟารี ฟู้โกว๊ก (Vinpearl Safari Phu Quoc)
วินเพิร์ล ซาฟารี ฟู้โกว๊ก เป็น สวนสัตว์ซาฟารีแบบเปิดที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ครอบคลุมพื้นที่กว่า 380 เฮกตาร์ และเป็นบ้านของสัตว์ป่ากว่า 3,000 ตัว จากกว่า 150 สายพันธุ์ ไฮไลต์ของที่นี่คือการนั่งรถบัสซาฟารีเข้าไปชมสัตว์ที่อาศัยอยู่แบบเปิดโล่ง เช่น สิงโต ม้าลาย แรด และยีราฟ ที่สามารถเดินเข้ามาใกล้รถนักท่องเที่ยวได้โดยตรง
นอกจากซาฟารีแล้ว ยังมีโซนสวนสัตว์ที่สามารถเดินชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด มีโชว์การแสดงสัตว์ และโซนสัตว์เด็กที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับสัตว์น่ารัก เช่น กระต่าย แพะ และนกฟลามิงโก นอกจากนี้ วินเพิร์ล ซาฟารียังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยมีโครงการเพาะพันธุ์สัตว์หายากและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น เสือโคร่งขาว และแรดขาวใต้

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ใกล้กับ VinWonders สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือรถบัสจากตัวเมือง ดูโองดอง (Duong Dong) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 09:00 – 16:00 น.
3. วินวันเดอร์ส ฟู้โกว๊ก (VinWonders Phu Quoc)
วินวันเดอร์ส ฟู้โกว๊ก เป็นสวนสนุกแนวธีมพาร์คขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 เฮกตาร์ และแบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ได้แก่ โซนผจญภัย โซนไวกิ้ง โซนน้ำ โซนแฟนตาซี โซนเวนิส และโซนอนาคต ภายในมีเครื่องเล่นระดับโลก เช่น รถไฟเหาะ สวนน้ำ และโซนจำลองเมืองเวนิสที่เหมือนยกอิตาลีมาไว้ที่ฟู้โกว๊ก
นอกจากเครื่องเล่นที่หลากหลายแล้ว ที่นี่มีการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการทุกค่ำคืน เช่น การแสดงพาเหรด และโชว์น้ำพุเต้นระบำ พร้อมทั้งมีร้านอาหารและร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆ

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ใกล้กับ Vinpearl Safari สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือรถรับส่งจากตัวเมืองดูโองดอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 09:00 – 21:00 น.
4. หมู่บ้านชาวประมงฮามนิง (Ham Ninh Fishing Village)
หมู่บ้านชาวประมงฮามนิงเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ให้บรรยากาศท้องถิ่นแบบดั้งเดิมของฟู้โกว๊ก ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่าย นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลที่เงียบสงบ และสัมผัสการทำประมงแบบพื้นบ้าน ตั้งแต่การดักปู หอย และกุ้ง ไปจนถึงการสร้างกระชังเลี้ยงปลา ไฮไลต์ของที่นี่คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ซึ่งให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
อาหารทะเลของหมู่บ้านฮามนิงขึ้นชื่อว่า สดและราคาถูก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกปู กุ้ง หรือหอยที่จับมาสดๆ และให้ร้านอาหารท้องถิ่นปรุงให้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีของฝากที่ทำจากทะเล เช่น น้ำปลาฟู้โกว๊ก กุ้งแห้ง และไข่มุก ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไป

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะ ห่างจากตัวเมืองดูโองดองประมาณ 14 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับไปตามถนน TL47 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
5. หาดซาโอ (Sao Beach)
หาดซาโอเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของเกาะฟู้โกว๊ก มีทรายสีขาวละเอียดและน้ำทะเลใสเป็นสีฟ้าอมเขียว ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบและเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนบนชายหาดแบบสงบๆ ไฮไลต์ของหาดซาโอคือการเล่นน้ำทะเลใสสะอาด พายเรือคายัค หรือแม้แต่ดำน้ำตื้นเพื่อชมปะการัง
บริเวณชายหาดมีร้านอาหารและบาร์ริมทะเลให้นั่งเล่นพร้อมจิบค็อกเทลเย็นๆ นอกจากนี้ยังมีเปลญวนให้เช่า และกิจกรรมทางน้ำอย่างพาราเซลลิ่งและเจ็ตสกี หาดซาโอถือเป็นจุดที่ต้องแวะหากมาเที่ยวฟู้โกว๊ก

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ใกล้กับอันโทย (An Thoi) สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองดูโองดอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
6. ฟู้โกว๊ก ไนท์มาร์เก็ต (Phu Quoc Night Market)
ตลาดกลางคืนฟู้โกว๊กเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นของฟู้โกว๊ก ตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารทะเลสดๆ ทั้งปู กุ้ง หมึก และปลาหมึกย่าง รวมถึงของหวานพื้นเมือง เช่น ไอศกรีมมะพร้าว และโรตีเวียดนาม
นอกจากอาหารแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถหาซื้อของฝากจากฟู้โกว๊ก เช่น ไข่มุก น้ำปลา กาแฟเวียดนาม และงานฝีมือจากไม้และเปลือกหอย ตลาดนี้ให้บรรยากาศคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ในตัวเมืองดูโองดอง สามารถเดินทางโดยรถแท็กซี่หรือเดินเท้าหากพักในบริเวณใกล้เคียง
🕒 เวลาเปิด-ปิด 17:00 – 23:00 น.
7. หาดลองบีช (Long Beach)
หาดลองบีชเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของฟู้โกว๊ก และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกมากที่สุด ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล และเดินเล่นริมชายหาด ไฮไลต์ของหาดลองบีชคือความสะอาดและวิวที่สวยงาม
รอบๆ หาดมีรีสอร์ตและบาร์ริมทะเลที่ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารทะเล นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชิลล์ที่บีชบาร์พร้อมจิบค็อกเทล และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโรแมนติกของพระอาทิตย์ตก

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ใกล้ตัวเมืองดูโองดอง สามารถเดินทางได้ง่ายโดยรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์
🕒 เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
8. ดินแดนแห่งพริกไทย (Phu Quoc Pepper Farm)
ฟู้โกว๊กเป็นแหล่งผลิต พริกไทยคุณภาพสูง ที่ขึ้นชื่อระดับโลก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้พริกไทยที่นี่มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ฟาร์มพริกไทยบนเกาะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมกระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว และตากแห้งแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากพริกไทย เช่น พริกไทยดำ พริกไทยแดง และพริกไทยขาว ให้เลือกซื้อเป็นของฝาก
เดินเล่นท่ามกลางสวนพริกไทยสีเขียวชอุ่ม พร้อมพูดคุยกับชาวสวนเพื่อเรียนรู้วิธีการเพาะปลูกและการคัดเลือกเมล็ดพริกไทย นักท่องเที่ยวสามารถทดลองบดพริกไทยสดและชิมพริกไทยจากต้น ซึ่งให้รสชาติที่สดใหม่กว่าที่เคยสัมผัส

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ห่างจากตัวเมืองดูโองดองประมาณ 15 นาที สามารถเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่
🕒 เวลาเปิด-ปิด 07:00 – 17:00 น.
9. เรือนจำฟู้โกว๊ก (Phu Quoc Prison – Coconut Tree Prison)
เรือนจำฟู้โกว๊กเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามเวียดนาม ที่นี่เคยเป็นค่ายกักกันนักโทษในช่วงสงครามอินโดจีนและสงครามเวียดนาม ซึ่งมีนักโทษการเมืองและเชลยศึกถูกคุมขังมากกว่า 40,000 คน นักท่องเที่ยวสามารถชม ห้องขังจำลอง เครื่องทรมาน และภาพถ่ายประวัติศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก
ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในอดีต รวมถึงโมเดลจำลองเหตุการณ์จริง ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เรื่องราวของเวียดนามในอดีต

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ใกล้กับหมู่บ้านอันโทย สามารถเดินทางโดยแท็กซี่จากตัวเมืองดูโองดอง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 07:30 – 17:00 น.
10. หมู่เกาะอันโทย (An Thoi Archipelago)
หมู่เกาะอันโทยเป็นกลุ่มเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฟู้โกว๊ก เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการ ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก (snorkeling & scuba diving) เนื่องจากมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และฝูงปลาหลากสี ไฮไลต์ของที่นี่คือเกาะฟิงเกอร์ (Finger Island) และเกาะไดบี (Dai Bi Island) ที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสราวคริสตัล
นอกจากดำน้ำแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถพายเรือคายัค ตกปลา และล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก ที่นี่ให้บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง เดินทางจากท่าเรืออันโทย โดยเช่าเรือสปีดโบ๊ทหรือทัวร์เรือจากท่าเรือ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 08:00 – 17:00 น.
11. วัดโฮโฮ (Ho Quoc Pagoda)
วัดโฮโฮเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฟู้โกว๊ก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงติดชายฝั่งทะเล ทำให้สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรกว้างไกล ไฮไลต์ของที่นี่คือ พระพุทธรูปหินขาวขนาดใหญ่ และสถาปัตยกรรมแบบเวียดนามดั้งเดิม
วัดนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและการถ่ายภาพบรรยากาศอันเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบริเวณวัด ศึกษาประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาในเวียดนาม และสัมผัสกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะ ห่างจากสนามบินฟู้โกว๊กประมาณ 10 กิโลเมตร เดินทางโดยแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์
🕒 เวลาเปิด-ปิด 06:00 – 18:00 น.
12. น้ำตกซุยทรัน (Suoi Tranh Waterfall)
น้ำตกซุยทรันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมบนเกาะฟู้โกว๊ก น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าฝนเขตร้อนและมีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหินที่ปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียว นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าเข้าไปชมความสวยงามของน้ำตก พร้อมสัมผัสอากาศเย็นสบายและเสียงน้ำไหลที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
พื้นที่รอบๆ น้ำตกเหมาะสำหรับการปิกนิกและเล่นน้ำ โดยมีแอ่งน้ำตื้นๆ ที่สามารถลงไปแช่ตัวเพื่อคลายร้อนได้ นอกจากนี้ เส้นทางเดินป่ายังพาไปสู่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นธรรมชาติอันเขียวขจีของฟู้โกว๊ก และในบางฤดูกาลยังสามารถพบสัตว์ป่าท้องถิ่น เช่น ผีเสื้อหลากสี และนกพันธุ์หายาก

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะ ห่างจากตัวเมืองดูโองดองประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์หรือรถแท็กซี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที จากจุดจอดรถต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 15-20 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 07:00 – 18:00 น.
13. จุดชมวิวดินห์เกา (Dinh Cau Rock – Cau Temple)
ดินห์เกาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรมของฟู้โกว๊ก ตั้งอยู่บนโขดหินริมทะเล จุดนี้เป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าดินห์เกา (Cau Temple) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ชาวประมงให้ความเคารพ เชื่อกันว่าเทพองค์นี้ช่วยปกป้องให้การเดินเรือและการทำประมงปลอดภัย
นอกจากความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดินห์เกายังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฟู้โกว๊ก นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดไปยังจุดชมวิวด้านบนเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของทะเล ท่าเรือ และเรือประมงที่แล่นอยู่ในมหาสมุทร นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและแผงขายของที่ระลึกจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องประดับไข่มุก และเครื่องรางที่เกี่ยวข้องกับทะเล

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือหลักของตัวเมืองดูโองดอง สามารถเดินทางโดยแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์ และหากพักในตัวเมืองสามารถเดินเท้าไปได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 07:00 – 19:00 น.
14. พิพิธภัณฑ์ไข่มุกฟู้โกว๊ก (Phu Quoc Pearl Farm)
เกาะฟู้โกว๊กขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไข่มุกคุณภาพสูง และ พิพิธภัณฑ์ไข่มุกฟู้โกว๊ก เป็นสถานที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่มุกตั้งแต่ต้นจนจบ ภายในพิพิธภัณฑ์มีนิทรรศการแสดงเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของไข่มุก ประเภทของไข่มุก และเทคนิคการคัดเลือกไข่มุกที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อไข่มุกแท้ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ทั้งในรูปแบบของเครื่องประดับสุดหรูและของที่ระลึก โดยมีให้เลือกตั้งแต่ ไข่มุกสีขาว ไข่มุกสีชมพู และไข่มุกสีดำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไข่มุกจากฟู้โกว๊ก การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไข่มุกของเวียดนาม และยังสามารถชมวิวทะเลสวยงามบริเวณรอบๆ ได้อีกด้วย

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะ ใกล้กับหาดลองบีช สามารถเดินทางโดยแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองดูโองดอง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
🕒 เวลาเปิด-ปิด 08:00 – 18:00 น.
15. ตลาดดินห์เดือง (Duong Dong Market)
ตลาดดินห์เดืองเป็นตลาดหลักของเกาะฟู้โกว๊กและเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่คึกคักที่สุด นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นไม่ควรพลาดที่นี่ เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่อาหารทะเลสด ผลไม้เมืองร้อน เครื่องเทศท้องถิ่น ไปจนถึงของฝาก เช่น น้ำปลาฟู้โกว๊ก และ กาแฟเวียดนาม
นอกจากการซื้อของฝาก นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินชิมอาหารทะเลปรุงสดใหม่ เช่น ปูทะเลเผา ปลาย่างเกลือ และหอยเชลล์ย่างเนยกระเทียม อีกทั้งยังมีอาหารเวียดนามต้นตำรับ เช่น บั๋ญแซ่ว (Bánh Xèo) และ เฝอ (Phở) ตลาดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสรสชาติแท้ๆ ของฟู้โกว๊กในราคาที่ไม่แพง

📍 สถานที่ตั้งและการเดินทาง ตั้งอยู่ในตัวเมืองดูโองดอง สามารถเดินทางโดยแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์ และหากพักในบริเวณใกล้เคียงสามารถเดินเท้าไปได้
🕒 เวลาเปิด-ปิด 05:00 – 18:00 น.
สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 15 แห่งบนเกาะฟู้โกว๊กนี้ครอบคลุมทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ชายหาด จุดชมวิว สวนสนุก หรือแหล่งช้อปปิ้ง คุณสามารถเลือกสถานที่ที่เหมาะกับความสนใจของตนเองเพื่อสัมผัสเสน่ห์ของเกาะแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยหากต้องการเที่ยวให้ครบทั้ง 15 สถานที่ ที่แนะนำนี้ ควรใช้เวลาประมาณ 4 วัน 3 คืน เพื่อให้สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศของแต่ละสถานที่ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเร่งรีบเกินไป
หากต้องการเที่ยวให้ครบ 15 สถานที่สำคัญบนเกาะฟู้โกว๊ก ควรใช้เวลาประมาณ 4 วัน 3 คืน เพื่อให้สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของแต่ละจุดหมายได้อย่างเต็มที่ โดยเริ่มจาก โซนใต้ของเกาะ เช่น หมู่บ้านชาวประมงฮามนิงและตลาดดินห์เดือง จากนั้นสำรวจ โซนตะวันออก ที่มีน้ำตกซุยทรันและวัดโฮโฮ วันที่สามเน้นความสนุกที่ VinWonders และ Vinpearl Safari พร้อมจบทริปด้วยการพักผ่อนที่ชายหาด เช่น หาดซาโอและหาดลองบีช วันสุดท้ายสามารถเดินเล่นตลาดเช้าหรือแวะซื้อของฝากที่พิพิธภัณฑ์ไข่มุก ก่อนเดินทางกลับ
เกาะฟู้โกว๊ก เป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ชายหาดสวย น้ำทะเลใส วัดวาอาราม หรือสวนสนุกระดับโลก ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ทั้งสายชิลล์และสายผจญภัย หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่ครบเครื่องและให้ประสบการณ์ที่หลากหลาย ฟู้โกว๊กคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด!
>> ที่เที่ยว ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ คลิก
ชอบบทความและสนันสนุนให้กำลังใจเราชาวเอสพี ทำไงดีนะ…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบทความดีๆบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook https://facebook.com/spregaltravel/
“เรามุ่งมั่นที่จะทำทัวร์ท่องเที่ยวให้แตกต่างจากทั่วไป สถานที่ที่คุณจะได้ไปนั้นนอกจากจะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปกับเราแล้วเรายังเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณอีกด้วย กับแผนการเดินทางที่แตกต่างและไม่จำเจเหมือนกับทั่วๆไป อีกทั้งคุณยังได้รับการดูแลและมีบริการที่แตกต่าง ให้คุณเปรียบเสมือนคนพิเศษ ให้ได้รู้สึกสัมผัสการไปเที่ยวไม่เหมือนใคร และจะประทับใจแบบไม่มีทางลืมได้เลย..” คุณสามารถติดต่อหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เพื่อเลือกเคมเปญที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ
💬 ติดต่อเราได้เลย!

Comment (0)