เที่ยวปักกิ่ง

เที่ยวปักกิ่ง |เมืองหลวงแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน 

เที่ยวปักกิ่ง เมืองหลวงที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและมนต์เสน่ห์ของจีน เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน สำรวจพระราชวังต้องห้ามที่งดงาม และเดินทอดน่องไปในตรอกซอยโบราณที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินกับความทันสมัยในย่านช้อปปิ้งสุดหรูและอาหารจีนต้นตำรับที่ไม่เหมือนใคร ปักกิ่งคือเมืองที่รวมทุกอย่างไว้อย่างลงตัว พร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ไม่ซ้ำใครในทุกย่างก้าว

.

เที่ยวปักกิ่ง ก็ควรรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ เราไปศึกษาประวัติกันก่อนเพื่อการเที่ยวที่มีความสุขเพราะรู้ประวัติของสถานที่ๆเราจะไป🇨🇳

ปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และสำคัญที่สุดของโลก โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการปกครอง วัฒนธรรม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวของปักกิ่งแบ่งออกได้เป็นหลายยุคสมัย ดังนี้

.

ยุคก่อนประวัติศาสตร์

พื้นที่ปักกิ่งมีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบหลักฐานการอาศัยของมนุษย์ยุคโบราณ เช่น ซากฟอสซิลของมนุษย์ปักกิ่ง (Peking Man) ในเขตโจวโข่วเตี้ยน ซึ่งมีอายุประมาณ 700,000–200,000 ปี ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการพัฒนาของมนุษย์ในภูมิภาคนี้

.

ยุคราชวงศ์โบราณ (ก่อนการรวมจีน)

ในช่วงยุคชุนชิวและจ้านกว๋อ (770–221 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ปักกิ่งเริ่มมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองศูนย์กลางของแคว้นเยี่ยน (燕) ซึ่งเป็นหนึ่งในแคว้นของจีนโบราณ เมืองนี้มีชื่อเรียกว่า “จี้ (蓟)” และทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของแคว้น

.

ยุคราชวงศ์ฉินและฮั่น (221 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 220)

เมื่อแคว้นต่าง ๆ ถูกรวมเป็นจักรวรรดิภายใต้ราชวงศ์ฉิน ปักกิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิและเริ่มมีบทบาทในด้านการค้าและการเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในยุคราชวงศ์ฮั่น เมืองนี้เริ่มพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมและทำหน้าที่เป็นจุดผ่านสำคัญของการค้าระหว่างจีนและภูมิภาคอื่น ๆ

.

ยุคราชวงศ์สุยและถัง (ค.ศ. 581–907)

ปักกิ่งยังคงเป็นเมืองศูนย์กลางในภูมิภาคตอนเหนือของจีน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเมืองหลวง แต่ก็มีความสำคัญในฐานะจุดยุทธศาสตร์ทางทหารและการค้าของจักรวรรดิ โดยเฉพาะในยุคถังที่การค้าเจริญรุ่งเรือง

.

ยุคราชวงศ์เหลียว จิน และหยวน (ค.ศ. 907–1368)

– ราชวงศ์เหลียว (ค.ศ. 907–1125): ปักกิ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลวงรองของจักรวรรดิ เหลียวสร้างเมืองชื่อ “หนานจิง (南京)” ที่นี่ และวางรากฐานการพัฒนาที่สำคัญ

– ราชวงศ์จิน (ค.ศ. 1115–1234): เมืองนี้ถูกเรียกว่า “จงตู (中都)” และกลายเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จิน

– ราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271–1368): ปักกิ่งในยุคนี้เรียกว่า “ต้าตู (大都)” หรือ “คัมบาลิก” ในบันทึกของชาวยุโรป เช่น มาร์โค โปโล โดยถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะเมืองหลวงของจักรวรรดิของมองโกล

.

ยุคราชวงศ์หมิงและชิง (ค.ศ. 1368–1911)

– ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644): ปักกิ่งกลายเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1421 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิหย่งเล่อ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นในยุคนี้

– ราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644–1911): เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางการเมือง ศิลปะ และวัฒนธรรมของจีน โดยมีการขยายและปรับปรุงเมืองเพิ่มเติม

.

ยุคสาธารณรัฐและการปฏิวัติจีน (ค.ศ. 1912–1949)

หลังการล่มสลายของราชวงศ์ชิง ปักกิ่งกลายเป็นเมืองสำคัญของสาธารณรัฐจีนในช่วงแรก แต่ในปี ค.ศ. 1928 เมืองหลวงถูกย้ายไปที่หนานจิง และปักกิ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “เป่ยผิง (北平)” อย่างไรก็ตาม เมืองนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในทางวัฒนธรรมและการเมือง โดยเฉพาะในช่วงสงครามกับญี่ปุ่น

.

ยุคสมัยใหม่ (ค.ศ. 1949–ปัจจุบัน)

เมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1949 ปักกิ่งได้รับเลือกเป็นเมืองหลวงอีกครั้ง และได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งในด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี ปัจจุบัน ปักกิ่งเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวังต้องห้าม กำแพงเมืองจีน และสถานที่ทันสมัย เช่น ย่านศิลปะ 798 และสนามกีฬาโอลิมปิก

“ปักกิ่งเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีบทบาทสำคัญในทุกยุคสมัย ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน เมืองนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวจีน แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของจีนอย่างแท้จริง”

.

เที่ยวปักกิ่ง เพื่อเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ แล้วทำไมปักกิ่งถึงได้รับความยอมรับถึงยิ่งใหญ่❓

ปักกิ่งไม่ได้เป็นเพียงเมืองหลวงของจีน แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การปกครอง และเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความยิ่งใหญ่ของปักกิ่งสะท้อนผ่านหลายแง่มุมที่หล่อหลอมให้เมืองนี้มีบทบาทสำคัญมาตลอดหลายพันปี ดังนี้

.

1. ศูนย์กลางทางการปกครองและอำนาจ

✅ บทบาททางการเมือง ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของจีนในหลายยุคสมัย ตั้งแต่ราชวงศ์จิน หยวน หมิง และชิง จนถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนในปัจจุบัน การเป็นศูนย์กลางของอำนาจทำให้เมืองนี้เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรและความมั่งคั่งจากทั่วประเทศ

✅ สถานที่สำคัญทางการเมือง พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) และจัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความยิ่งใหญ่ของปักกิ่ง

.

2. ศูนย์กลางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

✅ แหล่งมรดกโลก ปักกิ่งมีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกถึง 7 แห่ง เช่น พระราชวังต้องห้าม กำแพงเมืองจีน พระราชวังฤดูร้อน และวิหารฟ้า (Temple of Heaven) ซึ่งแสดงถึงความเป็นเลิศด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม

✅ ความต่อเนื่องทางวัฒนธรรม ปักกิ่งเป็นเมืองที่หลอมรวมวัฒนธรรมจีนทั้งเก่าและใหม่ ตั้งแต่ตรอกโบราณ (Hutong) ไปจนถึงย่านศิลปะร่วมสมัย เช่น ย่าน 798 Art District

.

3. ความสำคัญทางยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์

✅ ทำเลที่ตั้ง ปักกิ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการป้องกันและการค้าตั้งแต่อดีต

✅ จุดเชื่อมต่อการค้า เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมโบราณ (Silk Road) และยังคงเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ในจีนและโลก

.

4. การผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย

✅ โครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัย ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว เช่น รถไฟความเร็วสูง สนามบินนานาชาติปักกิ่งต้าซิง (Beijing Daxing International Airport) และสนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติ (Bird’s Nest)

✅ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีมรดกทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ปักกิ่งยังคงเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น เป็นฐานของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน

.

5. ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการศึกษา

✅ เศรษฐกิจที่มั่งคั่ง ปักกิ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน มีการรวมตัวของบริษัทข้ามชาติและองค์กรระดับโลก

✅ ศูนย์กลางการศึกษา เมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) และมหาวิทยาลัยชิงหวา (Tsinghua University) ซึ่งผลิตบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถ

.

6. อิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับโลก

✅ จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ปักกิ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลาย

✅ บทบาทในเวทีโลก การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2008 และงานประชุมสำคัญ ทำให้ปักกิ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจระดับโลก

.

เมืองหลวงที่สะท้อนความเป็นจีนอย่างแท้จริง

ปักกิ่งคือภาพสะท้อนของจีนในทุกมิติ ทั้งความเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความทันสมัยที่ก้าวไกล เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางของอำนาจและวัฒนธรรมของจีน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในเวทีโลก

.

เที่ยวปักกิ่ง แล้วปักกิ่งมีสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างไร ช่วงไหนควรเที่ยว❓

ปักกิ่งมีภูมิอากาศแบบ ภาคพื้นทวีปกึ่งแห้งแล้ง (Continental Monsoon Climate) โดยมีลักษณะเด่นคือฤดูกาลที่แตกต่างกันชัดเจน สภาพอากาศในแต่ละฤดูมีดังนี้

.

1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

🌸 ลักษณะอากาศ อากาศเย็นสบายถึงอุ่น แต่ค่อนข้างแห้ง มีลมพัดแรงในบางช่วง

🌸 อุณหภูมิ เฉลี่ยอยู่ที่ 10–20°C แต่ตอนกลางคืนอาจเย็นกว่า

🌸 จุดเด่น ดอกไม้เริ่มบาน สวนและภูเขารอบปักกิ่งเต็มไปด้วยสีสัน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวกลางแจ้ง

.

2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

☀️ ลักษณะอากาศ ร้อนและชื้น โดยเป็นช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดในรอบปี เนื่องจากอิทธิพลของมรสุม

☀️ อุณหภูมิ เฉลี่ย 26–35°C บางวันอาจสูงถึง 40°C

☀️ จุดเด่น เป็นฤดูของผลไม้สดและกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ควรเตรียมตัวรับมือกับความร้อนและฝนตกที่ไม่คาดคิด

.

3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

🍁 ลักษณะอากาศ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส และความชื้นลดลง

🍁 อุณหภูมิ เฉลี่ยอยู่ที่ 15–25°C ตอนกลางคืนอาจลดลงต่ำกว่า 10°C ในเดือนพฤศจิกายน

🍁 จุดเด่น เป็นฤดูที่ได้รับความนิยมสำหรับการท่องเที่ยว เนื่องจากทัศนียภาพที่สวยงาม ใบไม้เปลี่ยนสีตามภูเขาและสวนต่าง ๆ

.

4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

❄️ ลักษณะอากาศ หนาวจัดและแห้ง โดยบางวันอาจมีหิมะตกเล็กน้อย

❄️ อุณหภูมิ เฉลี่ยอยู่ที่ -5 ถึง 5°C แต่บางวันอาจลดลงต่ำกว่า -10°C

❄️ จุดเด่น เป็นฤดูของการเพลิดเพลินกับเทศกาล เช่น เทศกาลตรุษจีน และกิจกรรมบนหิมะในพื้นที่ใกล้เคียง

.

⚠️ ข้อควรระวัง

⛔ ลมและฝุ่น ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว ปักกิ่งอาจประสบปัญหาลมแรงและพายุทราย (จากทะเลทรายโกบี) จึงควรเตรียมหน้ากากป้องกันฝุ่น

⛔ มลภาวะทางอากาศ แม้จะมีการปรับปรุงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่บางช่วงโดยเฉพาะในฤดูหนาว อาจมีปัญหาหมอกควัน (Smog)

.

Tip ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

**🌸 ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม) ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวปักกิ่ง เนื่องจากอากาศเย็นสบาย ทิวทัศน์สวยงาม และมีโอกาสเกิดฝนน้อย

ข้อจำกัดที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนเที่ยวปักกิ่ง

การท่องเที่ยวในปักกิ่งสำหรับชาวต่างชาติมีความสะดวกสบายมากขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ โดยเฉพาะในด้านการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันมือถือและการเข้าถึงข้อมูลหรือการใช้แผนที่นำทาง ดังนี้

.

การชำระเงินผ่าน WeChat Pay และ Alipay

ในประเทศจีน การชำระเงินผ่านมือถือโดยใช้แอปพลิเคชันอย่าง WeChat Pay และ Alipay เป็นที่แพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มีบัญชีธนาคารจีน การใช้งานอาจมีข้อจำกัด ดังนี้

การสมัครและผูกบัตรเครดิต

– Alipay ชาวต่างชาติสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Alipay และสมัครใช้งานได้ โดยสามารถผูกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตระหว่างประเทศ เช่น Visa, Mastercard, American Express, Discover Global Network และ JCB เพื่อใช้ชำระเงินในจีนได้

.

– WeChat Pay การสมัคร WeChat Pay สำหรับชาวต่างชาติอาจซับซ้อนกว่า เนื่องจากต้องการการยืนยันตัวตนและการผูกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ซึ่งอาจไม่รองรับบัตรจากธนาคารต่างประเทศในบางกรณี

ข้อจำกัดในการใช้งาน

– แม้จะสามารถผูกบัตรเครดิตได้ แต่การใช้งานอาจจำกัดเฉพาะการชำระเงินกับร้านค้าที่รองรับการชำระผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้ และอาจไม่สามารถโอนเงินระหว่างผู้ใช้หรือใช้บริการบางอย่างได้

– การยืนยันตัวตนและการผูกบัตรอาจต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถรับรหัส OTP ซึ่งอาจเป็นปัญหาหากไม่มีการเปิดใช้งานโรมมิ่งหรือใช้ซิมการ์ดท้องถิ่น

.

การเข้าถึงข้อมูลและการใช้แผนที่นำทาง 🌏

การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

– ในประเทศจีน การเข้าถึงเว็บไซต์และบริการบางอย่าง เช่น Google Maps, Facebook, และบริการของ Google อื่น ๆ อาจถูกจำกัด หรือ Google Maps ถ้าเปิดโรมมิ่งไปก็จะสามารถใช้งานได้จริง แต่พิกัด GPS จะไม่ตรงกับพื้นที่จริง ทำให้สามารถใช้ดูคร่าวๆได้ แต่ระบุตำแหน่งที่แม่นยำไม่ได้เลย

– แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแผนที่ที่ใช้งานได้ในจีน เช่น Baidu Maps หรือ Amap ซึ่งมีข้อมูลที่ละเอียดและครอบคลุม

.

การใช้งานแผนที่และการนำทาง

– แอปพลิเคชันแผนที่ท้องถิ่นอาจมีเฉพาะภาษาจีน ทำให้การใช้งานสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษาจีนเป็นไปได้ยาก

– แนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์หรือใช้แอปพลิเคชันที่มีการแปลภาษาเพื่อช่วยในการนำทาง

.

❇️ ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

– ดาวน์โหลดและสมัครใช้งานแอปพลิเคชันการชำระเงินและแผนที่ที่จำเป็นก่อนเดินทาง

– ตรวจสอบว่าบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของคุณรองรับการใช้งานในจีนหรือไม่

การใช้งานอินเทอร์เน็ต

– พิจารณาใช้บริการ VPN ที่เชื่อถือได้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์และบริการที่อาจถูกจำกัดในจีน

– เตรียมซิมการ์ดหรือ eSIM ที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในจีน เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและการนำทาง

การเตรียมตัวและความเข้าใจในข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้การท่องเที่ยวในปักกิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

.

เมื่อรู้มาถึงขนาดนี้ ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปเที่ยวกันเลย❗

ปักกิ่งเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความทันสมัย ต่อไปนี้คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปักกิ่ง 

.

1. กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)

กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของจีน สร้างขึ้นในยุคราชวงศ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสต์ศักราชจนถึงราชวงศ์หมิง เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ มีความยาวรวมกว่า 21,000 กิโลเมตร กำแพงประกอบด้วยป้อมปราการ หอสังเกตการณ์ และทางเดินลาดยาวที่สามารถใช้เดินตรวจการณ์ได้ จุดที่นิยมเยี่ยมชมคือด่านปาต้าหลิง (Badaling) ซึ่งมีการบูรณะอย่างดีและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย รวมถึงด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) ที่เงียบสงบและมีทัศนียภาพที่งดงาม กำแพงเมืองจีนไม่เพียงเป็นสิ่งก่อสร้างเชิงยุทธศาสตร์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถและความพยายามของชาวจีนในอดีต ที่หล่อหลอมให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นในปัจจุบัน

.

🚩 รายละเอียด หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของจีน จุดที่นิยมคือด่านปาต้าหลิง (Badaling) ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย หรือด่านมู่เถียนยวี่ (Mutianyu) ที่เงียบสงบกว่า

🚩 กิจกรรม เดินชมวิว ถ่ายภาพทิวทัศน์ หรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้า

.

2. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) หรือที่เรียกว่า “กู้กง” (故宫) เป็นพระราชวังหลวงของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1406 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1420 โดยจักรพรรดิหย่งเล่อ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 720,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารกว่า 900 หลัง พระราชวังนี้สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่วิจิตรและประณีต โดยมีการออกแบบให้สะท้อนความสมดุลและลำดับชั้นของจักรวาล ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Palace Museum) ที่จัดแสดงศิลปวัตถุและมรดกทางวัฒนธรรมของราชวงศ์จีน ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนเมื่ออยู่ในปักกิ่ง

.

🚩 รายละเอียด ศูนย์กลางการปกครองในยุคราชวงศ์หมิงและชิง พระราชวังนี้มีอาคารกว่า 900 หลัง และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

🚩 จุดเด่น สถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง และนิทรรศการเกี่ยวกับราชวงศ์จีน

⚠️ คำแนะนำ ต้องจองตั๋วก่อนเข้าชมล่วงหน้าเท่านั้น โดยสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 7 วันก่อนวันไปเที่ยว โดยคุณสามารถจองได้ที่เว็บไซต์ของจีน หากคุณจองผ่านเอเจนซี่ส่วนใหญ่มักพ่วงขายทัวร์อื่นๆเพิ่ม ทำให้ราคาตั๋วแพงกว่ามาก ซึ่งหากจองเองราคาจะอยู่ที่ 282 บาทเท่านั้น(60หยวน) แต่หากจองที่อื่นราคาจะสูงถึงพันกว่าบาท คลิกที่นี่เพื่อทำการจองตั๋วกับทางเว็บไซต์จีน(มีภาษาอังกฤษ) คลิก 

.

3. จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)

จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ด้านหน้าประตูเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศจีน จัตุรัสนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1651 และได้รับการขยายและปรับปรุงในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง เช่น อนุสาวรีย์วีรชนแห่งประชาชน หอประชุมใหญ่แห่งประชาชน และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมระดับชาติ เช่น การเฉลิมฉลองวันชาติ และพิธีเชิญธงชาติในยามเช้าและเย็น ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการแสดงพลังอำนาจและความภาคภูมิใจในความเป็นจีน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

.

🚩 รายละเอียด จัตุรัสสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญ เช่น อนุสาวรีย์วีรชน และหอประชุมใหญ่แห่งประชาชน

🚩 กิจกรรม ชมพิธีเชิญธงชาติ ถ่ายภาพประตูเทียนอันเหมิน

.

4. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)

พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) หรือที่เรียกว่า “อี๋เหอหยวน” (颐和园) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นพระราชวังหลวงที่ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อนของจักรพรรดิราชวงศ์ชิง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1750 และได้รับการฟื้นฟูในปี ค.ศ. 1886 หลังจากถูกทำลายระหว่างสงครามโลก พระราชวังแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.9 ตารางกิโลเมตร โดยมีจุดเด่นคือทะเลสาบคุนหมิงและภูเขาหมื่นปี (Longevity Hill) ซึ่งล้อมรอบด้วยสวนสวย สถาปัตยกรรมที่วิจิตร และสะพานโบราณ เช่น สะพานโค้งสิบเจ็ดช่วง (Seventeen-Arch Bridge) พระราชวังฤดูร้อนสะท้อนถึงการผสมผสานของศิลปะการจัดสวนจีนเข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปักกิ่ง

.

🚩 รายละเอียด พระราชวังที่ใช้พักผ่อนในฤดูร้อนของราชวงศ์ชิง โดดเด่นด้วยสวนสวยงามและทะเลสาบคุนหมิง

🚩 กิจกรรม ล่องเรือชมวิว เดินเล่นบนสะพานโบราณ และสำรวจสถาปัตยกรรมโบราณ

.

5. วัดสวรรค์ (Temple of Heaven) 

วัดสวรรค์ (Temple of Heaven) หรือที่เรียกว่า “เทียนถาน” (天坛) ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง ใช้สำหรับการสักการะฟ้าและขอพรให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1420 วัดแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.7 ล้านตารางเมตร ใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามถึง 4 เท่า โดดเด่นด้วยอาคารวงกลมที่งดงาม เช่น หอประกอบพิธีบวงสรวงฟ้า (Hall of Prayer for Good Harvests) ที่สร้างด้วยไม้โดยไม่มีการใช้ตะปู และแท่นบูชาฟ้า (Circular Mound Altar) ซึ่งสะท้อนความเชื่อในจักรวาลวิทยา วัดสวรรค์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 และเป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างความงดงามของสถาปัตยกรรมและความเงียบสงบของสวนในเมืองหลวงได้อย่างลงตัว

.

🚩 รายละเอียด สถานที่ประกอบพิธีกรรมของจักรพรรดิในยุคราชวงศ์หมิงและชิง สัญลักษณ์ของความสมดุลระหว่างฟ้าและดิน

🚩 จุดเด่น สถาปัตยกรรมวงกลมที่สวยงาม และบรรยากาศเงียบสงบในสวน

.

6. ย่านโบราณโฮ่วไห่ (Houhai)

ย่านโบราณโฮ่วไห่ (Houhai) เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง โดดเด่นด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยตรอกซอยโบราณหรือหูท่ง (Hutong) ที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวปักกิ่ง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นจุดจอดเรือสำหรับการขนส่งสินค้าและเป็นที่พักผ่อนของขุนนางราชวงศ์ ปัจจุบัน โฮ่วไห่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และร้านค้าที่ผสมผสานความเป็นดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ นั่งเรือชมบรรยากาศ หรือเดินสำรวจตรอกเก่าแก่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของบ้านเรือนจีนโบราณได้ ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสความมีชีวิตชีวาของปักกิ่งในมุมที่แตกต่างจากสถานที่ประวัติศาสตร์อื่น ๆ

.

🚩 รายละเอียด ย่านที่เต็มไปด้วยทะเลสาบและตรอกซอยเก่าแก่ (Hutong) มีบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้าแบบดั้งเดิม

🚩 กิจกรรม ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ ช้อปปิ้ง และสัมผัสวิถีชีวิตชาวปักกิ่ง

.

7. ย่านศิลปะ 798 (798 Art District)

ย่านศิลปะ 798 (798 Art District) เป็นแหล่งศิลปะร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ในเขตเฉาหยาง กรุงปักกิ่ง พื้นที่นี้เคยเป็นโรงงานผลิตเครื่องจักรในยุคทศวรรษ 1950 แต่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์บาวเฮาส์ (Bauhaus) ที่ผสมผสานกับการจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัย เช่น ภาพวาด ประติมากรรม และศิลปะแบบอินสตอลเลชัน ย่านนี้เต็มไปด้วยแกลเลอรี ร้านค้างานศิลป์ ร้านกาแฟ และพื้นที่แสดงดนตรีสด นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชมผลงานศิลปะ ช้อปปิ้งของที่ระลึก หรือสัมผัสบรรยากาศอันมีเอกลักษณ์ของชุมชนศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ย่าน 798 เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัย

.

🚩 รายละเอียด พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยที่เปลี่ยนจากโรงงานเก่ามาเป็นแกลเลอรีและร้านค้างานศิลป์

🚩 กิจกรรม ชมนิทรรศการศิลปะ และถ่ายภาพมุมอาร์ต

.

8. ถนนช้อปปิ้งหวังฟู่จิ่ง (Wangfujing Street)

ถนนช้อปปิ้งหวังฟู่จิ่ง (Wangfujing Street) เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงปักกิ่งและเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่ผสมผสานความทันสมัยและความดั้งเดิมของจีน ตั้งอยู่ในย่านตงเฉิง ถนนสายนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์เนม ร้านขายของที่ระลึก และแผงลอยอาหารท้องถิ่นที่คึกคักในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย เช่น ไส้กรอกแมงป่อง ปลาหมึกเสียบไม้ และขนมหวานจีน รวมถึงช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องประดับ เสื้อผ้า ไปจนถึงงานหัตถกรรมดั้งเดิม ถนนหวังฟู่จิ่งไม่เพียงเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อป แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวปักกิ่งได้อย่างแท้จริง

.

🚩 รายละเอียด แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีทั้งร้านค้าสมัยใหม่และตลาดอาหารพื้นเมือง

🚩 จุดเด่น อาหารพื้นเมือง เช่น แมงป่องเสียบไม้ และของที่ระลึกแบบดั้งเดิม

.

9. หอสังเกตการณ์ CCTV Tower

หอสังเกตการณ์ CCTV Tower หรือที่รู้จักในชื่อ Central Radio & TV Tower เป็นอาคารสูง 405 เมตร ตั้งอยู่ในเขตไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1992 โดยเป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในจีนและถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีของประเทศ หอคอยแห่งนี้มีจุดเด่นคือดาดฟ้าชมวิวที่ความสูง 238 เมตร ซึ่งให้ทัศนียภาพแบบ 360 องศาของกรุงปักกิ่ง นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่ภัตตาคารหมุนซึ่งตั้งอยู่บนหอคอย และเข้าชมนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียงในจีน หอสังเกตการณ์ CCTV Tower เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวเมืองจากมุมสูงและสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจในปักกิ่ง

.

🚩 รายละเอียด สถาปัตยกรรมทันสมัยที่โดดเด่นในย่านธุรกิจ เป็นจุดชมวิวที่ให้คุณเห็นทิวทัศน์เมืองปักกิ่งได้ 360 องศา

🚩 กิจกรรม ชมพระอาทิตย์ตก และถ่ายภาพในยามค่ำคืน

.

10. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของจีน (National Museum of China)

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของจีน (National Museum of China) ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนและหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2003 จากการรวมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีนและพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งจีนเข้าด้วยกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 192,000 ตารางเมตร และจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์กว่า 1 ล้านชิ้น ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคปัจจุบัน ไฮไลต์สำคัญได้แก่ โถทองแดงโบราณซึ่งเป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติ รูปปั้นทหารดินเผาจากสุสานจักรพรรดิฉิน และนิทรรศการที่แสดงประวัติศาสตร์การพัฒนาและความเจริญของจีน พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของจีนเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจของชาติอย่างลึกซึ้งในบรรยากาศที่งดงามและทันสมัย

.

🚩 รายละเอียด พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์และศิลปะของจีน ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน

🚩 จุดเด่น นิทรรศการถาวรเกี่ยวกับราชวงศ์จีน และสิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรม

.

❇️ Tips ข้อแนะนำการท่องเที่ยวจากเรา

การท่องเที่ยวสถานที่สำคัญในปักกิ่งให้ราบรื่นและเป็นไปตามแผน ควรเริ่มต้นด้วยการวางแผนล่วงหน้าโดยจัดลำดับสถานที่ตามพื้นที่ใกล้เคียงกันเพื่อประหยัดเวลา ตรวจสอบเวลาทำการและซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อลดเวลารอคิว เตรียมตัวสำหรับการเดินมาก ดังนั้นควรสวมรองเท้าที่สบายและพกน้ำดื่มติดตัวเสมอ ใช้แอปพลิเคชันแผนที่เช่น Baidu Maps หรือ Amap เพื่อการนำทางที่แม่นยำและรองรับการใช้งานในจีน ตรวจสอบสภาพอากาศและแต่งกายให้เหมาะสม โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด ควรมีเสื้อผ้าหนาๆ ติดตัว พิจารณาใช้บริการไกด์ท้องถิ่นในสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ซับซ้อน เช่น พระราชวังต้องห้ามหรือกำแพงเมืองจีน เพื่อเพิ่มความเข้าใจและอรรถรสในการเยี่ยมชม และสุดท้ายควรเตรียมเงินสดและสมัครใช้งานแอปพลิเคชันการชำระเงินเช่น Alipay หรือ WeChat Pay เพื่อความสะดวกในการซื้อของและอาหารในท้องถิ่น

.

เที่ยวปักกิ่ง เพราะการเยือนปักกิ่งไม่เพียงแต่จะพาคุณย้อนกลับไปในอดีตที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสความทันสมัยที่ผสมผสานกับวิถีชีวิตดั้งเดิมได้อย่างลงตัว เมืองหลวงแห่งนี้เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่สำคัญระดับโลก อาหารเลิศรส และประสบการณ์ที่ยากจะลืม หากคุณกำลังมองหาปลายทางที่รวบรวมทุกมิติของการท่องเที่ยวไว้ในที่เดียว ปักกิ่งคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ พร้อมมอบความทรงจำอันล้ำค่าให้คุณในทุกย่างก้าวที่ได้สัมผัสเมืองนี้

>> ประเทศไหนบ้างเหมาะกับนักท่องเที่ยวมือใหม่ คลิก

>>ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ช่องทางนี้ คลิก

“เรามุ่งมั่นที่จะทำทัวร์ท่องเที่ยวให้แตกต่างจากทั่วไป สถานที่ที่คุณจะได้ไปนั้นนอกจากจะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปกับเราแล้วเรายังเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณอีกด้วย กับแผนการเดินทางที่แตกต่างและไม่จำเจเหมือนกับทั่วๆไป อีกทั้งคุณยังได้รับการดูแลและมีบริการที่แตกต่าง ให้คุณเปรียบเสมือนคนพิเศษ ให้ได้รู้สึกสัมผัสการไปเที่ยวไม่เหมือนใคร และจะประทับใจแบบไม่มีทางลืมได้เลย..” คุณสามารถติดต่อหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เพื่อเลือกเคมเปญที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ

💬 ติดต่อเราได้เลย!

• • • • โทรด่วนได้ที่ 082-036-5184
      • ส่งภาพหน้างานและพูดคุยได้ที่ Line
        
        
      • Email : spregaltravel@hotmail.com
      • ติดตามเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/spregaltravel/