เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว | ดินแดนแห่งธรรมชาติ อาหารเลิศรส และหิมะที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ฮอกไกโดหน้าหนาว เปรียบเสมือนดินแดนแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน อากาศเย็นสดชื่น และบรรยากาศสุดโรแมนติกในทุกมุมของเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหิมะสุดยิ่งใหญ่ กิจกรรมสนุกสนานในฤดูหนาว หรือการสัมผัสวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ฮอกไกโดพร้อมมอบประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจในช่วงเวลาที่เย็นที่สุดของปี
.
เกาะฮอกไกโดในหน้าหนาวทำไมถึงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกันมาก🇯🇵
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ฮอกไกโดได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติอันงดงามที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ สภาพอากาศหนาวเย็นและแห้งสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ฤดูหนาวแบบเต็มรูปแบบ กิจกรรมในฤดูหนาว เช่น การเล่นสกี การเดินทางบนเรือตัดน้ำแข็ง และการตกปลาน้ำแข็งในทะเลสาบน้ำแข็ง กลายเป็นไฮไลต์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงรักฮอกไกโด นอกจากนี้ เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ซึ่งจัดขึ้นทุกปี ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยงานแกะสลักน้ำแข็งและประติมากรรมหิมะที่ยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์
นอกจากกิจกรรมและเทศกาลแล้ว ฮอกไกโดยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่และอร่อย เช่น อาหารทะเลสด ราเมนฮอกไกโด และขนมหวานขึ้นชื่ออย่างเมลอนและชีสเค้ก สถานที่ท่องเที่ยวในฤดูหนาว เช่น โอตารุ คลองเก่าแก่ที่ประดับด้วยแสงไฟในเทศกาลแสงหิมะ หรือฟาร์มหิมะในฟุราโนะและบิเอะ เสริมสร้างบรรยากาศโรแมนติกและความเงียบสงบ ทำให้ฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวที่มองหาความงดงามแบบธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว
.
30 สถานที่ห้ามพลาดในช่วงหน้าหนาว พร้อมแล้วไปเที่ยวกันเลย🇯🇵
1. หุบเขานรก (Jigokudani Observation Deck)
หุบเขานรก Jigokudani เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ที่แรกนี้ตั้งอยู่ในเมืองโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดในฮอกไกโด ชื่อ “หุบเขานรก” มาจากภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยไอน้ำร้อนและก๊าซกำมะถันที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้พื้นที่นี้ดูราวกับภาพในนรกของตำนานญี่ปุ่น ความงดงามของ Jigokudani อยู่ที่สีสันของหินและแร่ธาตุที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ น้ำแร่ร้อนจากหุบเขายังไหลลงสู่เมืองโนโบริเบ็ตสึ กลายเป็นแหล่งออนเซ็นชื่อดังที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ
ในช่วงฤดูหนาว หุบเขานรกยิ่งสวยงามเป็นพิเศษเมื่อปกคลุมด้วยหิมะขาวบริสุทธิ์ ทำให้ทัศนียภาพดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางชมวิวที่จัดไว้ให้เพื่อสัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และยังสามารถมองเห็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เดือดปุดๆ เป็นจุดเด่นของพื้นที่ สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ออนเซ็นในบริเวณใกล้เคียงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการผ่อนคลายท่ามกลางอากาศหนาว

.
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8:00 – 17:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
การเดินทาง : จากสถานี JR Sapporo นั่งรถไฟสาย JR Muroran Line ไปยังสถานี Noboribetsu ใช้เวลาประมาณ 70-90 นาที จากนั้นขึ้นรถบัส Donan Bus ที่มุ่งหน้าไปยัง Noboribetsu Onsen ใช้เวลาอีกประมาณ 15 นาที ลงที่ป้าย Noboribetsu Jigokudani แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีเพื่อถึงจุดชมวิว Jigokudani Observation Deck
พิกัด : แผนที่
.
2. หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ (Noboribetsu Date Jidai Village)
หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ (Noboribetsu Date Jidaimura) หมู่บ้านโนโบริเบ็ตสึ ดาเตะ จิไดมูระ ตั้งอยู่ในเมืองโนโบริเบ็ตสึ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสวนสนุกเชิงวัฒนธรรมที่จำลองบรรยากาศและวิถีชีวิตในสมัยเอโดะ (ปี 1603-1868) อย่างสมจริง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมหมู่บ้านที่ประกอบด้วยอาคารไม้แบบดั้งเดิม เช่น บ้านซามูไร หมู่บ้านนินจา โรงละคร วัด และร้านค้าต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมยุคนั้น
ภายในหมู่บ้านยังมีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น โชว์นินจาที่หมู่บ้านนินจาคาสุมิ ซึ่งเต็มไปด้วยกลไกซับซ้อน และโชว์โออิรันที่ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมได้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าชุดขุนนาง เจ้าหญิง เกอิชา หรือนินจา เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและเดินชมหมู่บ้านทั้งวัน

.
เวลาเปิด-ปิด :
🟡 ฤดูร้อน (1 เมษายน – 31 ตุลาคม) 9:00 – 17:00 น.
🟡 ฤดูหนาว (1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม) 9:00 – 16:00 น.การเข้าชมรอบสุดท้ายจะสิ้นสุดก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง และอาจมีการปิดปรับปรุงในบางวัน
การเดินทาง : จากสถานี JR Noboribetsu ขึ้นรถบัส Donan Bus ใช้เวลาประมาณ 6 นาที ลงที่ป้าย “Noboribetsu Date Jidaimura” แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อยถึงหมู่บ้าน
พิกัด : แผนที่
.
3. สวนหมีโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu Bear Park)
สวนหมีโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu Bear Park) ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมืองโนโบริเบ็ตสึ จังหวัดฮอกไกโด เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาลฮอกไกโด (ฮิกุมะ) ที่มีหมีมากกว่า 100 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถชมพฤติกรรมของหมีอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสให้อาหารพวกมันผ่าน “กรงมนุษย์” ซึ่งเป็นทางเดินที่ปลอดภัยใต้กรงหมี ซึ่งนอกจากการชมและให้อาหารหมีแล้ว สวนยังมีพิพิธภัณฑ์หมีสีน้ำตาลที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและการอนุรักษ์หมีสีน้ำตาล รวมถึง “ยูการะโนะซาโตะ” หมู่บ้านจำลองของชาวไอนุ ที่นำเสนอวัฒนธรรมและประเพณีของชนพื้นเมืองในฮอกไกโด

.
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8:30 – 16:30 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
การเดินทาง : จากสถานี JR Noboribetsu ขึ้นรถบัส Donan Bus ไปยังสถานีโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น (Noboribetsu Onsen) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินไปยังสถานีกระเช้าลอยฟ้า (Ropeway Station) และนั่งกระเช้าขึ้นไปยังสวนหมี ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
พิกัด : แผนที่
.
4. ย่านช้อปปิ้งอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Shopping Park)
ย่านช้อปปิ้งอาซาฮิคาวะ หรือที่รู้จักในชื่อ “ถนนเฮวะโดริ” (Heiwa-dori Shopping Park) เป็นถนนคนเดินสายแรกของญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1972 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาซาฮิคาวะ มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เริ่มจากสถานี JR Asahikawa ไปจนถึงบริเวณ 8-chome ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายประเภท ทั้งร้านแฟชั่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และห้างสรรพสินค้า เช่น Seibu และ Feeeal นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลต่าง ๆ ตลอดปี เช่น เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Winter Festival) ที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์
ในช่วงฤดูหนาว ถนนเฮวะโดริมีระบบทำความร้อนใต้พื้นถนนเพื่อป้องกันการเกิดน้ำแข็ง ทำให้การเดินช้อปปิ้งเป็นไปอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีม้านั่งและประติมากรรมต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ย่านนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในอาซาฮิคาวะ เช่น สวนสัตว์อาซาฮิยามะ โดยมีรถบัสให้บริการจากบริเวณใกล้เคียง

.
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดทำการตั้งแต่ 10:00 น. ถึง 21:00 น. แต่เวลาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละร้านค้า ควรตรวจสอบเวลาทำการของร้านค้าที่ต้องการเยี่ยมชมล่วงหน้า
การเดินทาง : จากสถานี JR Asahikawa ออกทางออกทิศตะวันตก (West Exit) แล้วเดินตรงไปประมาณ 1 นาที จะพบกับถนนเฮวะโดริที่เริ่มต้นจากบริเวณนี้
พิกัด : แผนที่
ย่านช้อปปิ้งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว
.
5. สวนสัตว์อาซาฮิยามะพาเหรดเพนกวิน (Asahiyama Zoo)
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) ตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮิกาวะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือการออกแบบพื้นที่จัดแสดงสัตว์ให้ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด ทำให้ผู้เข้าชมสามารถสังเกตพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด สวนสัตว์นี้มีสัตว์มากกว่า 700 ตัว จาก 124 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ที่หาชมได้ยาก เช่น หมีขั้วโลก เพนกวิน และหมาป่า
ไฮไลต์สำคัญของสวนสัตว์อาซาฮิยามะในฤดูหนาวคือ “พาเหรดเพนกวิน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคมของทุกปี ในกิจกรรมนี้ เพนกวินจะเดินขบวนผ่านเส้นทางภายในสวนสัตว์ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ชมความน่ารักและถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีอุโมงค์แก้วเพนกวินที่ให้ผู้เข้าชมได้ชมการว่ายน้ำของเพนกวินจากมุมมองใต้ทะเล และสวนน้ำหมีขั้วโลกที่สามารถชมพฤติกรรมของหมีขั้วโลกได้อย่างใกล้ชิด

.
เวลาเปิด-ปิด :
- ฤดูร้อน (28 เมษายน – 20 ตุลาคม) 9:30 – 17:15 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 16:00 น.)
- ฤดูหนาว (11 พฤศจิกายน – 7 เมษายน) 10:30 – 15:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 15:00 น.)
หมายเหตุ: สวนสัตว์ปิดทำการระหว่างวันที่ 8 เมษายน – 27 เมษายน และ 21 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานี JR Asahikawa ขึ้นรถบัสหมายเลข 41, 42 หรือ 47 จากป้ายหมายเลข 6 ที่หน้าสถานี ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าโดยสาร 440 เยน ลงที่ป้าย “Asahiyama Zoo” ซึ่งอยู่หน้าทางเข้าสวนสัตว์
พิกัด : แผนที่
.
6. ฮอกไกโด ไอซ์พาวิลเลียน (Hokkaido Ice Pavilion)
ฮอกไกโด ไอซ์พาวิลเลียน (Hokkaido Ice Pavilion) ตั้งอยู่ในเมืองคามิกาวะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์ความหนาวเย็นตลอดทั้งปี ภายในพาวิลเลียนมีอุณหภูมิคงที่ที่ -20°C และมีโซนที่จำลองความหนาวเย็นถึง -41°C ซึ่งเป็นอุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึกได้ในญี่ปุ่น ส่วนภายในพาวิลเลียนมีการจัดแสดงหินงอกหินย้อยที่เกิดจากการแข็งตัวของน้ำแข็งตลอด 40 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์น้ำแข็งที่ประดับด้วยแสงสีสวยงาม และโซนที่ผู้เข้าชมสามารถทดลองแขวนผ้าเปียกน้ำให้แข็งตัวภายในเวลาอันสั้น

.
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.)
การเดินทาง : จากสถานี JR Kamikawa นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที ค่าโดยสารประมาณ 600 เยน
พิกัด : แผนที่
.
7. พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Kangoku Prison Museum)
พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ ตั้งอยู่ในเมืองอาบาชิริ จังหวัดฮอกไกโด เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่อนุรักษ์และจัดแสดงอาคารเรือนจำเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เรือนจำนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคฮอกไกโดในยุคเมจิ ภายในพิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจอาคารต่าง ๆ เช่น อาคารบัญชาการ ห้องขังรวม และอาคารอบรมจริยธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
นอกจากการชมสถาปัตยกรรมดั้งเดิมแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีการนำเสนอเนื้อหา VR ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงเกี่ยวกับชีวิตในเรือนจำและการทำงานของนักโทษในอดีต นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และบทบาทของเรือนจำอาบาชิริในการพัฒนาฮอกไกโด

.
เวลาเปิด-ปิด :
- พฤษภาคม – กันยายน: 8:30 – 18:00 น.
- ตุลาคม – เมษายน: 9:00 – 17:00 น. เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR อาบาชิริ ขึ้นรถบัสจาก Abashiri Bus Terminal ไปยังป้าย “Hakubutsukan Abashiri Kangoku” ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 240 เยน รถบัสออกทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
พิกัด : แผนที่
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้กับป้ายรถเมล์
.
8. เรือตัดน้ำแข็งอาบาชิริ (Abashiri Drift Ice Sightseeing & Icebreaker Ship)
เรือตัดน้ำแข็งออโรร่า (Aurora Icebreaker Ship) เป็นเรือท่องเที่ยวที่ให้บริการล่องชมธารน้ำแข็งในทะเลโอค็อตสค์ บริเวณเมืองอาบาชิริ จังหวัดฮอกไกโด ในช่วงฤดูหนาว แผ่นน้ำแข็งจากแม่น้ำอามูร์ในรัสเซียจะลอยมาถึงชายฝั่งอาบาชิริ ทำให้เกิดทัศนียภาพที่งดงามและหาชมได้ยาก การล่องเรือตัดน้ำแข็งนี้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การแล่นเรือผ่านแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมทะเล พร้อมชมสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เช่น นกอินทรีทะเลสเตลเลอร์และแมวน้ำ
การล่องเรือใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเรือจะแล่นผ่านแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและประทับใจ สำหรับผู้ที่สนใจ ควรจองตั๋วล่วงหน้า เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูง และมีรอบการเดินเรือจำกัดในแต่ละวัน

.
เวลาเปิด-ปิด :
- เดือนมกราคม รอบเรือเริ่มตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 15:00 น.
- เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม รอบเรือเริ่มตั้งแต่ 9:30 น. ถึง 15:30 น. หมายเหตุ: ตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
การเดินทาง : จากสถานี JR Abashiri ขึ้นรถบัสไปยังป้าย “Ryuhyosaihyosen Noriba” ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
พิกัด : แผนที่
.
9. สถานีคิตาฮามะ – ฮามาโคชิมิซุ (Kitahama – Hama Koshimizu)
สถานีคิตาฮามะ – ฮามาโคชิมิซุ (Kitahama – Hama Koshimizu) สถานีคิตาฮามะ ตั้งอยู่ในเมืองโคชิมิซุ จังหวัดฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากตั้งอยู่ติดริมชายหาดทะเลโอค็อตสค์ที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว บรรยากาศเงียบสงบและสวยงามของที่นี่เหมาะสำหรับการนั่งรถไฟสาย Senmo Line ที่วิ่งผ่านสถานีนี้เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของชายหาดและทะเลในช่วงฤดูหนาว ซึ่งหาชมได้ยากจากที่อื่น
บรรยากาศริมชายฝั่งที่สถานีนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหิมะปกคลุมจนกลายเป็นพรมขาวทอดยาวไปยังทะเลโอค็อตสค์ ในวันฟ้าใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาและชายหาดที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟในสาย Senmo Line ซึ่งวิ่งผ่านสถานีนี้ยังเป็นโอกาสให้สัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟในบรรยากาศที่งดงามและอบอุ่นระหว่างทาง

.
เวลาเปิด-ปิด : สถานี Kitahama เป็นสถานีรถไฟที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตารางเวลาของรถไฟสาย Senmo Line ที่ผ่านสถานีนี้ควรตรวจสอบล่วงหน้า โดยทั่วไปจะมีรถไฟวิ่งตั้งแต่เวลา 6:00 น. ถึง 20:00 น.
การเดินทาง : จากสถานี JR Abashiri ขึ้นรถไฟสาย Senmo Line มุ่งหน้าสู่สถานี Kitahama ใช้เวลาประมาณ 40 นาที สถานีนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทริปสำรวจภูมิภาคฮอกไกโดในฤดูหนาว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวทะเลโอค็อตสค์และสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติของฮอกไกโดอย่างแท้จริง
พิกัด : แผนที่
.
10. ทะเลสาบอาคัง (Lake Akan)
ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอะคัง-มะชู (Akan-Mashu National Park) ทางตะวันออกของฮอกไกโด ในช่วงฤดูหนาว ผืนน้ำของทะเลสาบจะแข็งตัวกลายเป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์กิจกรรมฤดูหนาวที่หลากหลาย เช่น การตกปลาวะคะซะงิ (ปลาน้ำจืดขนาดเล็ก) บนผิวน้ำแข็ง ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้เจาะรูบนพื้นน้ำแข็งและตกปลาโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมขี่สโนว์โมบิลและการเดินบนหิมะด้วยรองเท้าหิมะ (snowshoeing) ที่ช่วยให้ผู้เข้าชมได้สำรวจธรรมชาติรอบทะเลสาบในบรรยากาศที่งดงาม
อีกหนึ่งไฮไลต์ของทะเลสาบอะคังในฤดูหนาวคือ “เทศกาลฟุยูฮานาบิ” (Fuyu Hanabi) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ภายในงานมีการแสดงดอกไม้ไฟบนผืนน้ำแข็ง สร้างภาพที่สวยงามตระการตา นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งและกิจกรรมวัฒนธรรมของชาวไอนุในหมู่บ้านไอนุโคตัน (Ainu Kotan) ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวไอนุผ่านการแสดงและงานหัตถกรรมต่าง ๆ

.
เวลาเปิด-ปิด : กิจกรรมฤดูหนาวที่ทะเลสาบอะคังมักจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม โดยเวลาทำการจะแตกต่างกันไปตามกิจกรรมและผู้ให้บริการ เช่น การตกปลาน้ำแข็งวะคะซะงิ มักเริ่มตั้งแต่เวลา 8:00 น. ถึง 16:00 น. ขณะที่เทศกาลฟุยูฮานาบิจะมีการแสดงดอกไม้ไฟในช่วงเย็น ควรตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
การเดินทาง : จากสถานี JR Kushiro ขึ้นรถบัสสาย Akan Bus มุ่งหน้าสู่ Akanko Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นเดินต่อไปยังทะเลสาบอะคังและหมู่บ้านไอนุโคตันได้อย่างสะดวก ควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสล่วงหน้า เนื่องจากความถี่ของรถอาจแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
พิกัด : แผนที่
.
11. หมู่บ้านไอนุโคตัน (Ainu Kotan)
หมู่บ้านไอนุโคตัน (Ainu Kotan) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอะคังในจังหวัดฮอกไกโด เป็นชุมชนของชาวไอนุที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วยบ้านเรือนและร้านค้าประมาณ 30 แห่ง ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไอนุผ่านการชมงานหัตถกรรมดั้งเดิม เช่น งานแกะสลักไม้และผ้าปัก รวมถึงการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่จัดขึ้นเป็นประจำ หมู่บ้านนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวไอนุ ทำให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน
ในช่วงฤดูหนาว หมู่บ้านไอนุโคตันจะมีการจัดเทศกาล “ฟุยุโนะชิริเกะ” (Fuyu no Shige) ซึ่งเป็นเทศกาลหิมะที่มีการประดับประดาด้วยโคมไฟน้ำแข็งและประติมากรรมหิมะ สร้างบรรยากาศที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของชาวไอนุ เช่น “โอฮาว” (ซุปเนื้อและผัก) และ “เมนยุ” (ขนมปังไอนุ) ที่หาทานได้เฉพาะที่นี่ การเยี่ยมชมหมู่บ้านไอนุโคตันจึงเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรมที่หายากและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโด

.
เวลาเปิด-ปิด : หมู่บ้านไอนุโคตันเปิดให้บริการทุกวัน โดยร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 18:00 น. อย่างไรก็ตาม เวลาทำการอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละร้านค้าและฤดูกาล ควรตรวจสอบล่วงหน้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการเยี่ยมชม
การเดินทาง : จากสถานี JR Kushiro ขึ้นรถบัสสาย Akan Bus มุ่งหน้าสู่ Akanko Onsen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นเดินเท้าประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยังหมู่บ้านไอนุโคตัน ควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เนื่องจากความถี่ของรถบัสอาจแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
พิกัด : แผนที่
.
12. หมู่บ้านน้ำแข็ง (Ice Village)
หมู่บ้านน้ำแข็ง (Ice Village) ตั้งอยู่ภายใน Hoshino Resorts Tomamu ในจังหวัดฮอกไกโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดเฉพาะช่วงฤดูหนาว โดยสร้างสรรค์จากน้ำแข็งและหิมะทั้งหมด ภายในหมู่บ้านมีสิ่งก่อสร้างและกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์น้ำแข็ง (Ice Church) ที่จัดพิธีแต่งงาน บาร์น้ำแข็ง (Ice Bar) ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มในแก้วน้ำแข็ง และโรงแรมน้ำแข็ง (Ice Hotel) ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักสัมผัสประสบการณ์การนอนในห้องที่สร้างจากน้ำแข็ง นอกจากนี้ ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับครอบครัว
ในช่วงกลางคืน หมู่บ้านจะประดับไฟสร้างบรรยากาศที่งดงามและโรแมนติก ทำให้ Ice Village เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ของฤดูหนาวในฮอกไกโด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานที่นี้สร้างจากน้ำแข็งทั้งหมด การเปิดให้บริการจึงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิในแต่ละปี ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทาง

.
เวลาเปิด-ปิด : Ice Village เปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี โดยเปิดตั้งแต่เวลา 17:00 น. ถึง 22:00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 500 เยน และฟรีสำหรับแขกที่เข้าพักใน Hoshino Resorts Tomamu
การเดินทาง : จากสนามบิน New Chitose สามารถขึ้นรถไฟ JR สาย Rapid Airport ไปยังสถานี Minami-Chitose จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย JR Sekisho Line มุ่งหน้าสู่สถานี Tomamu ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากสถานี Tomamu มีบริการรถรับส่งฟรีไปยังรีสอร์ท ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและบริการรับส่งล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
13. เทศกาลแสงหิมะโอตารุ (Otaru Canal)
เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในเมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ภายในงาน เมืองโอตารุจะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟและประติมากรรมหิมะขนาดเล็ก สร้างบรรยากาศโรแมนติกและอบอุ่นท่ามกลางความหนาวเย็น พื้นที่จัดงานหลัก ได้แก่ บริเวณคลองโอตารุ (Otaru Canal) และเส้นทางรถไฟเก่าเทมิยะ (Former Temiya Railway Line) โดยคลองโอตารุจะมีการลอยโคมไฟแก้วบนผิวน้ำ สะท้อนแสงไฟระยิบระยับ สร้างทัศนียภาพที่งดงาม ส่วนเส้นทางรถไฟเก่าเทมิยะจะมีการจัดแสดงประติมากรรมหิมะและโคมไฟตามแนวทางเดิน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การลอยเทียนในคลอง และการทำโคมไฟหิมะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้

.
เวลาเปิด-ปิด : เทศกาลจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 17:00-21:00 น. อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทาง เนื่องจากวันและเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ขึ้นรถไฟ JR สาย Hakodate Line มุ่งหน้าสู่สถานีโอตารุ (Otaru Station) ใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที จากนั้นเดินประมาณ 8-10 นาทีไปยังบริเวณคลองโอตารุ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานหลัก
พิกัด : แผนที่
สำหรับเส้นทางรถไฟเก่าเทมิยะ สามารถเดินจากคลองโอตารุไปยังบริเวณนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีรถบัสให้บริการจากสถานีโอตารุไปยังสถานที่จัดงานต่าง ๆ ภายในเมือง ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและรถบัสล่วงหน้าสำหรับความสะดวกในการเดินทาง
.
14. Mount Moiwa (Mt. Moiwa)
Mount Moiwa (Mt. Moiwa) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ภูเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Mt. Moiwa Ropeway เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรที่งดงามและในช่วงเย็นยังสามารถชมวิวกลางคืนที่สวยงามของเมืองได้ ที่ยอดเขามีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศาและยังมีร้านอาหาร “The Jewels” ที่ให้บริการอาหารพร้อมชมวิวเมืองในฤดูหนาว กิจกรรมสกีที่ Mt. Moiwa Ski Resort บนทางลาดด้านตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว

.
เวลาเปิด-ปิด : กระเช้าไฟฟ้า Mt. Moiwa Ropeway เดือนธันวาคมถึงมีนาคม เปิดเวลา 11:00 น. ถึง 22:00 น. (รอบสุดท้ายขึ้นเวลา 21:30 น.) ส่วนร้านอาหาร “The Jewels”: มื้อกลางวัน 12:00 น. ถึง 14:30 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 13:30 น.); มื้อเย็น 17:00 น. ถึง 21:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 19:30 น.)
การเดินทาง : จากสถานี Susukino ขึ้นรถรางสายเดียวของซัปโปโรไปยังสถานี “Ropeway Iriguchi” ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ค่าโดยสาร 200 เยนจากนั้นมีรถบัสรับส่งฟรีไปยังสถานีกระเช้าไฟฟ้าฐานล่าง (Sanroku Station) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที รถบัสออกทุก 15 นาที หรือเดินจากสถานี “Ropeway Iriguchi” ไปยังสถานีกระเช้าไฟฟ้าฐานล่างประมาณ 5 นาที
พิกัด : แผนที่
หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลาการให้บริการและสภาพอากาศล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลหรือสภาพอากาศ
.
15. สวนโอโดริ (Odori Park)
สวนโอโดริ (Odori Park) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นสวนสาธารณะยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ครอบคลุม 12 บล็อก แบ่งเมืองออกเป็นฝั่งเหนือและใต้ ในฤดูหนาว สวนโอโดริเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่และมีชื่อเสียงระดับโลก ภายในงานมีการจัดแสดงประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งขนาดใหญ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงไฟประดับในช่วงฤดูหนาว สร้างบรรยากาศที่งดงามและโรแมนติก
ในช่วงเทศกาลหิมะซัปโปโร สวนโอโดริจะเต็มไปด้วยซุ้มอาหารและเครื่องดื่ม นำเสนออาหารท้องถิ่นและนานาชาติ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงสดและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นภายในสวน นอกจากนี้ การขึ้นไปยังหอคอยโทรทัศน์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) ซึ่งตั้งอยู่ปลายด้านตะวันออกของสวน จะทำให้ได้ชมวิวทิวทัศน์ของสวนโอโดริและเมืองซัปโปโรในมุมสูง โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟ สร้างทัศนียภาพที่งดงามและน่าประทับใจ

.
เวลาเปิด-ปิด : สวนโอโดริเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่กิจกรรมและงานเทศกาลต่าง ๆ จะมีเวลาทำการเฉพาะ เช่น เทศกาลหิมะซัปโปโรมักจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ควรตรวจสอบวันและเวลาที่แน่นอนจากเว็บไซต์ทางการก่อนการเยี่ยมชม
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) สามารถเดินไปยังสวนโอโดริได้ในเวลาประมาณ 10 นาที หรือขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku Line หรือ Toho Line ไปยังสถานีโอโดริ (Odori Station) ซึ่งตั้งอยู่ใต้สวนโดยตรง ทำให้การเข้าถึงสวนโอโดริสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว
พิกัด : แผนที่
.
16. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นครั้งแรกในปี 1950 จากการสร้างประติมากรรมหิมะโดยนักเรียนมัธยมท้องถิ่น และเติบโตเป็นเทศกาลระดับนานาชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนต่อปี ภายในงานมีการจัดแสดงประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งขนาดใหญ่และเล็กกว่า 250 ชิ้น บางชิ้นมีขนาดกว้างถึง 25 เมตรและสูง 15 เมตร นอกจากนี้ ยังมีการจัดแข่งขันการแกะสลักหิมะจากทีมต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงทีมจากประเทศไทยที่เคยคว้ารางวัลชนะเลิศหลายครั้ง
งานเทศกาลแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ สวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงหลัก ย่านซุซุกิโนะ (Susukino) ที่มีการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็ง และสึโดม (Tsudome) ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมครอบครัว เช่น สไลด์หิมะและลานเล่นหิมะ ในช่วงกลางคืน ประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งจะถูกประดับด้วยแสงไฟ สร้างบรรยากาศที่งดงามและโรแมนติก

.
เวลาเปิด-ปิด : เทศกาลหิมะซัปโปโรครั้งที่ 74 ในปี 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2024โดยพื้นที่จัดแสดงหลักที่สวนโอโดริเปิดให้ชมตลอด 24 ชั่วโมง แต่การประดับไฟจะมีขึ้นตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึง 22:00 น.ส่วนพื้นที่สึโดมเปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 17:00 น. และย่านซุซุกิโนะมีการประดับไฟจนถึง 23:00 น.
การเดินทาง :
🟡 สวนโอโดริ (Odori Park) จากสถานี Sapporo สามารถเดินไปยังสวนโอโดริได้ในเวลาประมาณ 10 นาที หรือขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku Line หรือ Toho Line ไปยังสถานี Odori ซึ่งตั้งอยู่ใต้สวนโดยตรง
🟡 ย่านซุซุกิโนะ (Susukino) จากสถานี Odori ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku Line ไปยังสถานี Susukino ใช้เวลาประมาณ 2 นาที
🟡 สึโดม (Tsudome) จากสถานี Sapporo ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Toho Line ไปยังสถานี Sakaemachi จากนั้นขึ้นรถบัสไปยังสึโดม
หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและรถบัสล่วงหน้าสำหรับความสะดวกในการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
17. คลองฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market และ Ropeway)
เมืองฮาโกดาเตะในฤดูหนาวมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน สองสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) และ กระเช้าไฟฟ้าภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway)
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ตลาดเช้าฮาโกดาเตะเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดใหม่และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่คึกคัก ในฤดูหนาว ตลาดเปิดตั้งแต่เวลา 6:00 น. ถึง 12:00 น. นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองข้าวหน้าทะเลสด ๆ เช่น ข้าวหน้าหอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน นอกจากนี้ ยังมีโซนขายผักและผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงร้านอาหารที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้า

.
การเดินทาง : ตลาดตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Hakodate Station เพียงเดินออกจากสถานี เลี้ยวขวา ข้ามถนนไปหนึ่งบล็อก ก็จะถึงตลาด
กระเช้าไฟฟ้าภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway) การขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยังยอดภูเขาฮาโกดาเตะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ทิวทัศน์เมืองถูกปกคลุมด้วยหิมะ จากยอดเขา สามารถชมวิวเมืองและอ่าวฮาโกดาเตะที่งดงาม ในยามค่ำคืน วิวที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

.
เวลาเปิด-ปิด : กระเช้าไฟฟ้าเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 22:00 น. โดยรอบสุดท้ายขึ้นเวลา 21:50 น. อย่างไรก็ตาม เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทาง
การเดินทาง : จากสถานี JR Hakodate ขึ้นรถรางไปยังสถานี Jujigai ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาทีไปยังสถานีกระเช้าไฟฟ้าฐานล่าง
พิกัด : แผนที่
การเยี่ยมชมทั้งสองสถานที่นี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของฮาโกดาเตะในฤดูหนาวอย่างเต็มที่
.
18. สวนดอกไม้ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
สวนชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) เป็นธีมพาร์คขนมหวานที่ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ที่นี่เป็นที่รู้จักในฐานะโรงงานผลิตคุกกี้ชื่อดัง “ชิโรอิ โคอิบิโตะ” ในช่วงฤดูหนาว สวนจะถูกประดับด้วยไฟสวยงามในงาน “Sweet Illumination” สร้างบรรยากาศโรแมนติกและน่าหลงใหล นักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการผลิตคุกกี้ เข้าร่วมกิจกรรมทำขนมด้วยตนเอง และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพในสวนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ส่วนภายในสวนยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่ให้บริการเมนูพิเศษจากช็อกโกแลต รวมถึงร้านขายของที่ระลึกที่จำหน่ายสินค้าลิมิเต็ดเฉพาะฤดูกาล การเยี่ยมชมสวนชิโรอิ โคอิบิโตะในฤดูหนาวจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความหวานและความงดงามของฤดูหนาวในฮอกไกโดอย่างเต็มที่

.
เวลาเปิด-ปิด :
🟡 ช่วงงาน Sweet Illumination (15 พฤศจิกายน 2023 – 31 มีนาคม 2024): เปิดเวลา 10:00 น. – 19:00 น. (รับเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16:00 น.)
🟡 การประดับไฟ: 16:00 น. – 19:00 น. หมายเหตุ: วันที่ 31 ธันวาคม 2023 – 3 มกราคม 2024 เวลาทำการจะสั้นลง ปิดเวลา 17:00 น.
การเดินทาง :
🟡 รถไฟใต้ดิน ขึ้นสาย Tozai Line จากสถานี Odori ไปยังสถานี Miyanosawa ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาทีถึงสวน
🟡 รถบัส ขึ้นรถบัสจากสถานี Sapporo ไปยังป้าย Nishimachi Kita 20-Chome จากนั้นเดินต่อประมาณ 6 นาทีถึงสวน
พิกัด : แผนที่
การเดินทางไปยังสวนชิโรอิ โคอิบิโตะสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนซัปโปโรในฤดูหนาว
.
19. สกีรีสอร์ทนิเซโกะ (Niseko Ski Resort)
สกีรีสอร์ทนิเซโกะ (Niseko Ski Resort) ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว รีสอร์ทนี้ประกอบด้วยพื้นที่สกีหลัก 4 แห่ง ได้แก่ Annupuri, Niseko Village, Grand Hirafu และ Hanazono ซึ่งรวมกันเรียกว่า “Niseko United” พื้นที่เหล่านี้เชื่อมต่อกันที่ยอดเขา ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นสกีข้ามไปมาระหว่างรีสอร์ทได้อย่างสะดวก
นอกจากการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดแล้ว นิเซโกะยังมีชื่อเสียงในด้านหิมะคุณภาพสูง และทิวทัศน์ที่งดงาม นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การแช่อนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน) ที่มีอยู่หลายแห่งในพื้นที่ รวมถึงการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ ภายในรีสอร์ท ทำให้การมาเยือนนิเซโกะในฤดูหนาวเป็นประสบการณ์ที่ครบครันทั้งการผจญภัยและการผ่อนคลาย

.
เวลาเปิด-ปิด : ฤดูกาลเล่นสกีของนิเซโกะมักเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม โดยทั่วไป ลิฟต์สกีจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8:30 น. ถึง 16:30 น. และมีการเล่นสกียามค่ำคืน (Night Skiing) จนถึงประมาณ 20:30 น. อย่างไรก็ตาม เวลาทำการอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรีสอร์ทและสภาพอากาศ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Niseko United ก่อนการเดินทาง
การเดินทาง :
🟡 จากสนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport): ขึ้นรถไฟ JR Rapid Airport ไปยังสถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 70 นาที จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Hakodate Line ไปยังสถานี Kutchan ใช้เวลาประมาณ 90 นาที จากสถานี Kutchan มีรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังรีสอร์ทต่าง ๆ ในพื้นที่นิเซโกะ
🟡 จากเมืองซัปโปโร (Sapporo): ขึ้นรถไฟ JR Hakodate Line จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Kutchan ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังรีสอร์ทที่ต้องการ
นอกจากนี้ ยังมีบริการรถบัสตรงจากสนามบินนิวชิโตเสะและเมืองซัปโปโรไปยังนิเซโกะ ซึ่งสะดวกสบายและไม่ต้องเปลี่ยนรถหลายครั้ง ควรจองตั๋วล่วงหน้าและตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
20. ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโคสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่มีเส้นรอบวงประมาณ 40 กิโลเมตร ในฤดูหนาว ทะเลสาบโทยะมีความพิเศษตรงที่น้ำไม่แข็งตัว ทำให้สามารถล่องเรือชมทิวทัศน์ได้ตลอดปี นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ โดยในช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนเมษายน) เรือให้บริการตั้งแต่ 9:00 น. – 16:00 น. ออกทุก 60 นาที ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 45 นาที
นอกจากการล่องเรือแล้ว บริเวณรอบทะเลสาบยังมีบ่อน้ำพุร้อนโทยาโกะออนเซ็น (Toyako Onsen) ที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวสามารถแช่อนเซ็นพร้อมชมวิวทะเลสาบที่งดงาม นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินเล่นและจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลสาบและภูเขาอุสุ (Mount Usu) ที่อยู่ใกล้เคียง ในฤดูหนาว บรรยากาศที่ปกคลุมด้วยหิมะเพิ่มความงดงามและเงียบสงบให้กับพื้นที่นี้

.
เวลาเปิด-ปิด : ล่องเรือทะเลสาบโทยะ ช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนเมษายน) เรือให้บริการตั้งแต่ 9:00 น. – 16:00 น. ออกทุก 60 นาที
การเดินทาง :
🟡 จากซัปโปโร ขึ้นรถไฟ JR สาย Muroran Main Line จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Toya ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นขึ้นรถบัส Donan ไปยัง Toyako Onsen ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
🟡 จากสนามบินนิวชิโตเสะ ขึ้นรถไฟ JR สาย Rapid Airport จากสถานี New Chitose Airport ไปยังสถานี Minami-Chitose จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Muroran Main Line ไปยังสถานี Toya และต่อรถบัส Donan ไปยัง Toyako Onsen
การเดินทางไปยังทะเลสาบโทยะในฤดูหนาวอาจมีความท้าทายเนื่องจากสภาพอากาศ ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและรถบัสล่วงหน้า และเตรียมตัวสำหรับสภาพอากาศหนาวเย็น
พิกัด : แผนที่
.
21. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เป็นสถานที่ที่นำเสนอประวัติความเป็นมาของเบียร์ซัปโปโร ซึ่งเป็นเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงกระบวนการผลิตเบียร์ เครื่องมือที่ใช้ในอดีต และข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมการดื่มเบียร์ในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูหนาว การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้จะเพิ่มความพิเศษ เนื่องจากบรรยากาศภายนอกถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างความงดงามและเสน่ห์เฉพาะตัว หลังจากการเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองเบียร์สดใหม่ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูพิเศษ เช่น เนื้อย่างเจงกิสข่าน ที่เข้ากันได้ดีกับเบียร์ซัปโปโร
การมาเยือนพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรในฤดูหนาว ไม่เพียงแต่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกระบวนการผลิตเบียร์เท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่อบอุ่นภายในอาคารอิฐแดงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ การตกแต่งภายในที่คลาสสิกและการจัดแสดงที่น่าสนใจ ทำให้การเยี่ยมชมเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ นอกจากนี้ การได้ลิ้มรสเบียร์สดใหม่ท่ามกลางความหนาวเย็นของฤดูหนาว เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนซัปโปโร

.
เวลาเปิด-ปิด : พิพิธภัณฑ์ 11:00 – 18:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17:30 น.) และร้านอาหาร 11:30 – 22:00 น. (รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 21:30 น.) ปิดทำการทุกวันจันทร์ และวันที่ 31 ธันวาคม
การเดินทาง :
🟡 รถไฟใต้ดิน ขึ้นรถไฟสาย Toho Line จากสถานี Sapporo มาลงที่สถานี Higashi-Kuyakusho-Mae (ค่าโดยสาร 200 เยน) ออกทางออกหมายเลข 4 แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
🟡 รถบัส ขึ้นรถบัสสาย Loop 88 Factory Line จากสถานี Sapporo (จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2) มาลงที่ป้าย Sapporo Beer Garden (ค่าโดยสาร 210 เยน) รถบัสออกทุกๆ 20 นาที
หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและรถบัสล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
พิกัด : แผนที่
.
22. ฟุราโนะ (Furano Snow Resort)
ฟุราโนะ สกีรีสอร์ท (Furano Ski Resort) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ ใจกลางเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาคนี้ รีสอร์ทแบ่งออกเป็นสองโซนหลัก ได้แก่ โซนคิตาโนมิเนะ (Kitanomine) และโซนฟุราโนะ (Furano) มีเส้นทางสกีทั้งหมด 28 เส้นทาง พร้อมลิฟต์ 9 จุด เส้นทางที่ยาวที่สุดมีความยาวถึง 4 กิโลเมตร ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านหิมะที่เบาและแห้ง ซึ่งเป็นผลมาจากระบบพายุไซบีเรีย ทำให้เป็นสถานที่ในฝันของผู้ชื่นชอบหิมะ
นอกจากการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดแล้ว ฟุราโนะ สกีรีสอร์ทยังมีกิจกรรมฤดูหนาวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การขี่สโนว์โมบิล แพหิมะ สกีวิบาก และบ้านลม ที่แฟมิลี่สโนว์แลนด์ นอกจากนี้ ยังมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ใกล้กับลานสกี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายหลังจากกิจกรรมบนหิมะ รีสอร์ทนี้ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษในฤดูหนาว เช่น การเล่นสกีตอนกลางคืน และทัวร์ดูดาว เพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับผู้มาเยือน

เวลาเปิด-ปิด :
🟡 ฤดูกาลเล่นสกี ปกติเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
🟡 เวลาทำการ 9:00 น. – 20:00 น. (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและช่วงเวลา)
🟡 การเล่นสกีตอนกลางคืน 17:00 น. – 20:00 น.
การเดินทาง :
🟡 จากซัปโปโร ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีซัปโปโรไปยังสถานีทาคิคาวะ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟท้องถิ่นไปยังสถานีฟุราโนะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
🟡 จากสนามบินนิวชิโตเสะ ขึ้นรถไฟจากสนามบินไปยังสถานีซัปโปโร จากนั้นต่อรถไฟไปยังฟุราโนะตามเส้นทางข้างต้น
🟡 รถบัสตรง มีรถบัสวิ่งตรงจากสถานีซัปโปโรไปยังลานสกี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง (เวลาออกรถอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ)
ฟุราโนะ สกีรีสอร์ทเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเล่นสกีบนหิมะคุณภาพเยี่ยม พร้อมกับกิจกรรมฤดูหนาวที่หลากหลาย และบรรยากาศที่เงียบสงบห่างไกลจากความวุ่นวาย
พิกัด : แผนที่
.
23. บิเอะ (Biei Blue Pond)
บ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากผิวน้ำที่เปล่งประกายเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์ใส ซึ่งเกิดจากการสะท้อนของแสงแดดกับน้ำที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียม กำมะถัน และมะนาว ในช่วงฤดูหนาว บ่อน้ำสีฟ้าถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม ต้นสนและต้นเบิร์ชที่ยืนต้นอยู่ในน้ำเพิ่มความลึกลับและเสน่ห์ให้กับสถานที่นี้
การเยี่ยมชมบ่อน้ำสีฟ้าในฤดูหนาวควรเตรียมตัวสำหรับสภาพอากาศที่หนาวเย็น เนื่องจากพื้นที่นี้มีหิมะตกหนักและอุณหภูมิต่ำ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นและรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดินบนหิมะ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางก่อนการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเยี่ยมชม

เวลาเปิด-ปิด : บ่อน้ำสีฟ้าเปิดให้เข้าชมตลอดเวลา แต่ช่วงเวลาที่แนะนำคือระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อความปลอดภัยและการชมวิวที่ดีที่สุด
การเดินทาง : จากสถานี Biei: ขึ้นรถบัส Dohoku Bus สาย Biei – Shirogane จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 7-8 นาทีถึงบ่อน้ำสีฟ้า
การเดินทางไปยังบ่อน้ำสีฟ้าในฤดูหนาวอาจมีความท้าทายเนื่องจากสภาพอากาศ ควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสและสภาพถนนล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
24. ตลาดอาหารทะเลซัปโปโร (Sapporo Nijo Market)
ตลาดนิโจ (Nijo Market) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ในช่วงฤดูหนาว ตลาดนิโจมีเสน่ห์เฉพาะตัว เนื่องจากมีการจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่ตามฤดูกาล เช่น ปูหิมะ หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอน นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองข้าวหน้าปลาดิบสดใหม่จากร้านอาหารภายในตลาด พร้อมสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
นอกจากอาหารทะเลแล้ว ตลาดนิโจยังมีร้านค้าที่จำหน่ายผัก ผลไม้ และของฝากต่าง ๆ ในฤดูหนาว บรรยากาศของตลาดจะมีความเงียบสงบและโรแมนติก เนื่องจากหิมะที่ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ทำให้การเดินชมตลาดเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ตลาดนิโจจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนซัปโปโรในช่วงฤดูหนาว

.
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้า 7:0 0 น. – 18:00 น. ส่วนร้านอาหาร 6:00 น. – 21:00 น. เวลาทำการอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละร้าน
การเดินทาง : จากสถานี Odori เดินประมาณ 8 นาที , จากสถานี Bus Center-mae (รถไฟใต้ดินสาย Tozai) เดินประมาณ 3 นาที
ตลาดนิโจมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย
พิกัด : แผนที่
.
25. โชวะชินซัง (Mount Showa Shinzan)
ภูเขาโชวะชินซัน (Mount Showa Shinzan) เป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1943-1945 โดยก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟอุสุ (Mount Usu) ทำให้พื้นที่ราบกลายเป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 290 เมตร ในฤดูหนาว ภูเขาโชวะชินซันถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน สร้างทัศนียภาพที่งดงามและน่าประทับใจ นักท่องเที่ยวสามารถชมควันกำมะถันที่ยังคงพวยพุ่งจากปล่องภูเขาไฟ แสดงถึงความยังมีชีวิตของภูเขาไฟนี้
การเยี่ยมชมภูเขาโชวะชินซันในฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าอุสุซัง (Usuzan Ropeway) เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟและทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) จากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีสวนหมีโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของหมีสีน้ำตาลฮอกไกโด นักท่องเที่ยวสามารถชมและให้อาหารหมีได้

.
เวลาเปิด-ปิด : กระเช้าอุสุซัง: 9:00-16:00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
การเดินทาง : จากสถานี JR Toya: ขึ้นรถบัส Donan ไปยังป้าย Showa Shinzan (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) , จากสถานี Toyako Onsen: ขึ้นรถบัส Donan ไปยังป้าย Showa Shinzan (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
การเดินทางไปยังภูเขาโชวะชินซันในฤดูหนาวควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสและสภาพอากาศล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
26. สวนหมีโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park)
สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ (Usuzan Ropeway) ในฮอกไกโด เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และอนุรักษ์หมีสีน้ำตาลฮอกไกโด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชมพฤติกรรมของหมีได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีโอกาสให้อาหารหมีด้วยขนมปังหรือแอปเปิ้ลที่จำหน่ายภายในสวน หมีที่นี่ได้รับการฝึกฝนให้คุ้นเคยกับมนุษย์ ทำให้พวกมันมักจะแสดงท่าทางอ้อนขออาหารจากผู้มาเยือน สร้างความประทับใจและความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวทุกวัย
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว โดยในช่วงฤดูหนาว สวนหมีถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน สร้างบรรยากาศที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความน่ารักของหมีสีน้ำตาลที่เล่นสนุกในหิมะ นอกจากนี้ ยังมีห้องสังเกตการณ์พิเศษที่เรียกว่า “กรงมนุษย์” ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดกับหมีมากยิ่งขึ้น โดยสามารถมองเห็นและได้ยินเสียงของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็ก ๆ สวนหมีแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์

.
เวลาเปิด-ปิด :
- พฤษภาคม-ตุลาคม: 8:00-17:00 น.
- พฤศจิกายน-เมษายน: 9:00-16:00 น. เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและวันหยุดเทศกาล
การเดินทาง : จากสถานี Toya: ขึ้นรถบัส Donan ไปยังป้าย Showa-Shinzan ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ,และจาก Toyako Onsen: ขึ้นรถบัส Donan ไปยังป้าย Showa-Shinzan ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หมายเหตุ: รถบัสอาจมีตารางเวลาที่จำกัดในช่วงฤดูหนาว ควรตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้า
สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซันเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโด โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีบรรยากาศที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์
พิกัด : แผนที่
.
27. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่นี้ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด มีการจัดแสดงสัตว์น้ำกว่า 5,000 ตัว จาก 250 สายพันธุ์ โดยเน้นสัตว์น้ำท้องถิ่นของฮอกไกโดและแถบขั้วโลก ในช่วงฤดูหนาว พิพิธภัณฑ์มีการจัดกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ เช่น ขบวนพาเหรดเพนกวิน ที่ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความน่ารักของเพนกวินอย่างใกล้ชิด
นอกจากการจัดแสดงสัตว์น้ำแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีการแสดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในน้ำ เช่น โลมา วอลรัส สิงโตทะเล และแมวน้ำ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้เข้าชมทุกวัย บรรยากาศในฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ เพิ่มความงดงามและเสน่ห์ให้กับสถานที่นี้ ทำให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว

.
เวลาเปิด-ปิด : ฤดูหนาว: 10:00 น. – 16:00 น. (16 ธันวาคม 2023 – 25 กุมภาพันธ์ 2024) หมายเหตุ: เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและวันหยุด ควรตรวจสอบล่วงหน้าก่อนการเยี่ยมชม
การเดินทาง :
🟡 จากสถานี JR Otaru: ขึ้นรถบัส Chuo Bus สายหมายเลข 10 หรือ 11 จากป้ายหมายเลข 3 ที่หน้าสถานี ลงที่ป้าย “Otaru Suizokukan” (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
🟡 จากสถานี Minami-Otaru: ขึ้นรถบัส Chuo Bus สายหมายเลข 10 หรือ 11 จากป้ายหมายเลข 2 ที่หน้าสถานี ลงที่ป้าย “Otaru Suizokukan” ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
หมายเหตุ: ในช่วงฤดูหนาว ตารางเวลารถบัสอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
พิกัด : แผนที่
.
28. คฤหาสน์อาโอยามะ (Old Aoyama Villa)
คฤหาสน์อาโอยามะ (Old Aoyama Villa) หรือที่รู้จักในชื่อ “พระราชวังปลาเฮร์ริง” (Herring Palace) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่นี้ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ จังหวัดฮอกไกโด เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งจากอุตสาหกรรมประมงปลาเฮร์ริงในอดีต สร้างขึ้นโดยตระกูลอาโอยามะ ซึ่งเป็นครอบครัวชาวประมงที่มีอิทธิพลในภูมิภาคนี้ การก่อสร้างใช้เวลาถึง 6 ปี โดยช่างฝีมือชั้นนำของญี่ปุ่น ภายในตกแต่งด้วยไม้หายากและผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังของยุคนั้น ในช่วงฤดูหนาว คฤหาสน์ถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างบรรยากาศที่งดงามและเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม ท่ามกลางทิวทัศน์ฤดูหนาวที่สวยงาม
ภายในคฤหาสน์มีการจัดแสดงห้องต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของตระกูลอาโอยามะ นอกจากนี้ ยังมีสวนที่ตกแต่งอย่างประณีต ซึ่งในฤดูหนาวจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน เพิ่มความงดงามให้กับสถานที่ ใกล้กับคฤหาสน์ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูปลาเฮร์ริงสดใหม่ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับรสชาติท้องถิ่นอย่างแท้จริง การเยี่ยมชมคฤหาสน์อาโอยามะในฤดูหนาวจึงเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว

.
เวลาเปิด-ปิด : เมษายน-ตุลาคม: 9:00-17:00 น. และในพฤศจิกายน-มีนาคม: 9:00-16:00 น. ปิดทำการวันที่ 1-7 มกราคม
การเดินทาง :
- จากสถานี JR Otaru ขึ้นรถบัสสาย 10 หรือ 11 จากป้ายหมายเลข 3 ที่หน้าสถานี ลงที่ป้าย “Shukutsu 3-chome” ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที
- จากสถานี Minami-Otaru ขึ้นรถบัสสาย 10 หรือ 11 จากป้ายหมายเลข 2 ที่หน้าสถานี ลงที่ป้าย “Shukutsu 3-chome” ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที
หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
พิกัด : แผนที่
.
29 น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall)
น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall) เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สถานที่นี้ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำที่ไหลลงมามีสีฟ้าโคบอลต์สดใส ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุอลูมิเนียมในน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์ ในฤดูหนาว น้ำตกจะถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง สร้างทัศนียภาพที่งดงามและเงียบสงบ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงไฟประดับในช่วงเย็น ทำให้น้ำตกส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางความมืด สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและน่าประทับใจ
การเยี่ยมชมน้ำตกชิราฮิเงะในฤดูหนาว ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่น เนื่องจากอุณหภูมิอาจต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หลังจากชมความงามของน้ำตกแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะพักผ่อนที่บ่อน้ำพุร้อนชิโรกาเนะ (Shirogane Onsen) ซึ่งอยู่ใกล้เคียง เพื่อสัมผัสประสบการณ์การแช่อนเซ็นท่ามกลางหิมะ สร้างความผ่อนคลายและอบอุ่นร่างกาย

.
เวลาเปิด-ปิด : น้ำตกชิราฮิเงะเปิดให้เข้าชมตลอดเวลา ส่วนการจัดแสดงไฟประดับในฤดูหนาว: ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึง 21:00 น. (ช่วงเวลาการจัดแสดงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี)
การเดินทาง : จากสถานี JR Biei: ขึ้นรถบัส Dohoku ไปยังป้าย “Shirogane Onsen” ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาทีถึงน้ำตกชิราฮิเงะ
หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลารถบัสล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
พิกัด : แผนที่
.
30. เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิกาวะ (Asahikawa Winter Festival)
ในช่วงกลางคืน รูปปั้นหิมะและน้ำแข็งจะถูกประดับด้วยแสงไฟ สร้างบรรยากาศที่งดงามและน่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมีการจุดดอกไม้ไฟเพิ่มสีสันให้กับเทศกาล นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจากซุ้มอาหารที่ตั้งอยู่ภายในงาน เทศกาลนี้เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรมและความงดงามของฤดูหนาวในฮอกไกโด

.
เวลาเปิด-ปิด : ปกติจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 21:00 น. หมายเหตุ: เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทาง
การเดินทาง :
🟡 จากสถานี JR Sapporo ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษสาย Kamui หรือ Lilac ไปยังสถานี Asahikawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
🟡 จากสถานี Asahikawa มีรถบัสรับส่งฟรีระหว่างสถานีและสถานที่จัดงานหลัก หมายเหตุ: ควรตรวจสอบตารางเวลารถไฟและรถบัสล่วงหน้า เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิกาวะเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เทศกาลนี้เป็นที่นิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่น
พิกัด : แผนที่
ฮอกไกโดในฤดูหนาวเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ ความสนุกสนานจากกิจกรรมกลางแจ้ง และเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการเล่นสกี ชมประติมากรรมหิมะ เดินชิลในตลาดอาหารทะเล หรือสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของหมู่บ้านน้ำแข็ง ฮอกไกโดมีทุกสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกวัยและทุกความสนใจ การเดินทางในฤดูหนาวยังเพิ่มความพิเศษให้กับประสบการณ์การท่องเที่ยว ด้วยภูมิประเทศที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
.
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ฮอกไกโดในฤดูหนาวพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจในทุกแง่มุม ตั้งแต่ธรรมชาติที่งดงาม อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของกิจกรรมและทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ฮอกไกโดคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในฤดูหนาวที่ฮอกไกโด แล้วคุณจะหลงรักดินแดนแห่งหิมะนี้อย่างแน่นอน

>>รู้จักโตเกียวและไปเที่ยวกัน คลิก
>>ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ช่องทางนี้ คลิก
“เรามุ่งมั่นที่จะทำทัวร์ท่องเที่ยวให้แตกต่างจากทั่วไป สถานที่ที่คุณจะได้ไปนั้นนอกจากจะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปกับเราแล้วเรายังเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณอีกด้วย กับแผนการเดินทางที่แตกต่างและไม่จำเจเหมือนกับทั่วๆไป อีกทั้งคุณยังได้รับการดูแลและมีบริการที่แตกต่าง ให้คุณเปรียบเสมือนคนพิเศษ ให้ได้รู้สึกสัมผัสการไปเที่ยวไม่เหมือนใคร และจะประทับใจแบบไม่มีทางลืมได้เลย..” คุณสามารถติดต่อหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เพื่อเลือกเคมเปญที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ
💬 ติดต่อเราได้เลย!

Comment (0)