เที่ยวโตเกียว

เที่ยวโตเกียว | มหานครที่มีพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในโลก

เที่ยวโตเกียว เมืองโตเกียว (Tokyo) นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก เมืองนี้ผสมผสานความทันสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว มีเสน่ห์ทั้งในด้านเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) พระราชวังอิมพีเรียล และสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ โตเกียวยังเป็นที่รู้จักในเรื่องอาหารหลากหลาย แหล่งช้อปปิ้งทันสมัย เช่น ชิบูย่าและฮาราจูกุ รวมถึงสถานที่บันเทิงและแสงสีที่โดดเด่น เช่น ย่านชินจูกุและอากิฮาบาระ โตเกียวจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยที่ต้องการสัมผัสทั้งอดีตและอนาคตในที่เดียว

.

เที่ยวโตเกียว ก็ต้องรู้ประวัติของเมืองประกอบด้วยเพื่อสุนทรีแห่งการท่องเที่ยว ไปดูประวัติของเมืองนี้กัน

ต้นกำเนิดและยุคเอโดะ (ก่อนปี ค.ศ. 1603)

🇯🇵 โตเกียวในอดีตเริ่มต้นจากหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ชื่อว่า เอโดะ (Edo) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River)

🇯🇵 ในศตวรรษที่ 12 เอโดะเริ่มมีบทบาทสำคัญในฐานะฐานที่มั่นของตระกูลซามูไร โดยเฉพาะในช่วงที่ตระกูลโฮโจ (Hojo) มีอำนาจ

.

ยุคเอโดะและการเติบโตเป็นเมืองหลวง (ค.ศ. 1603-1868)

🇯🇵 ในปี ค.ศ. 1603 โทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ได้สถาปนาระบบโชกุนขึ้นในญี่ปุ่น และเลือกเอโดะเป็นฐานอำนาจของเขา

🇯🇵 เอโดะกลายเป็นศูนย์กลางการเมือง การปกครอง และการทหารของญี่ปุ่น แม้จักรพรรดิจะยังประทับอยู่ที่เกียวโต

🇯🇵 เมืองนี้เติบโตอย่างรวดเร็วและมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนในศตวรรษที่ 18 กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

.

ยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912)

🇯🇵 หลังการล่มสลายของระบบโชกุนในปี ค.ศ. 1868 และการปฏิรูปเมจิ เอโดะได้เปลี่ยนชื่อเป็น โตเกียว (แปลว่า “เมืองหลวงทางตะวันออก”) และกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ

🇯🇵 พระจักรพรรดิเมจิย้ายจากเกียวโตมาประทับในโตเกียว และพระราชวังอิมพีเรียลในปัจจุบันก็ตั้งอยู่ในที่ตั้งเดิมของปราสาทเอโดะ

.

ยุคไทโชและโชวะ สงครามและการฟื้นฟู (ค.ศ. 1912-1989)

🇯🇵 ในปี ค.ศ. 1923 โตเกียวประสบภัยธรรมชาติครั้งใหญ่จาก แผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบคันโต (Great Kanto Earthquake) ซึ่งทำลายเมืองอย่างรุนแรงและคร่าชีวิตประชาชนกว่า 140,000 คน

🇯🇵 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โตเกียวถูกโจมตีทางอากาศจากพันธมิตรในปี ค.ศ. 1945 โดยการทิ้งระเบิดได้ทำลายเมืองส่วนใหญ่และคร่าชีวิตพลเรือนหลายแสนคน

🇯🇵 หลังสงคราม ญี่ปุ่นเริ่มการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โตเกียวเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาและกลายเป็นเมืองทันสมัยที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

ยุคเฮเซและปัจจุบัน (ค.ศ. 1989-ปัจจุบัน)

🇯🇵 โตเกียวกลายเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญระดับโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม

🇯🇵 การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนในปี ค.ศ. 1964 ทำให้เมืองได้รับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ เช่น การสร้างรถไฟความเร็วสูง (ชินคันเซ็น)

🇯🇵 ในปี ค.ศ. 2020 (เลื่อนมาเป็น 2021) โตเกียวได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอีกครั้ง แม้จะเกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 แต่ยังคงแสดงถึงความสามารถในการจัดงานระดับโลก

จุดเด่นของโตเกียวในปัจจุบัน

🇯🇵 โตเกียวเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก โดยพื้นที่มหานครโตเกียวมีประชากรมากกว่า 37 ล้านคน

🇯🇵 เมืองนี้มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น วัดและศาลเจ้า กับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น หอคอยโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

🇯🇵 โตเกียวยังเป็นศูนย์กลางแฟชั่น อาหาร การ์ตูน (มังงะ) และเกม ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

“โตเกียวจึงเป็นเมืองที่ไม่เพียงแต่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังคงความสำคัญในระดับโลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน”

.

ทำไมโตเกียวถึงมีพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในโลก?

โตเกียวถือว่าเป็นพื้นที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดจาก ประชากรในเขตมหานคร (metropolitan area) และความหนาแน่นของพื้นที่เมืองใหญ่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มักถูกรวบรวมและรายงานโดยหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เช่น:

1. วิธีการวัดพื้นที่เมืองใหญ่

เขตมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Area):

🟡 ครอบคลุมพื้นที่มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolis) รวมถึงจังหวัดโดยรอบอย่าง ไซตามะ (Saitama), ชิบะ (Chiba) และ คานากาวะ (Kanagawa)

🟡 ใช้เกณฑ์การวัดที่เรียกว่า เขตปริมณฑลใหญ่ (Greater Tokyo Area) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ที่ประชาชนเดินทางเข้ามาทำงานหรือใช้บริการในเมืองโตเกียว

.

เกณฑ์สำคัญ

🟡 ประชากรในพื้นที่เขตเมือง (Urban Population)

🟡 การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เช่น ระบบขนส่งมวลชน

🟡 การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและสังคมระหว่างเขตต่าง ๆ

2. ตัวเลขประชากรและพื้นที่

มหานครโตเกียวมีประชากรมากที่สุดในโลก

🟡 ประชากรในเขตปริมณฑลใหญ่มีประมาณ 37-38 ล้านคน (ข้อมูลจากธนาคารโลกและ UN)

🟡 พื้นที่เขตเมืองใหญ่ของโตเกียวรวมอยู่ที่ประมาณ 13,500 ตารางกิโลเมตร

ข้อมูลการสำรวจ

🟡 สำรวจโดยองค์กรระดับนานาชาติ เช่น United Nations (UN) และ World Bank

🟡 การสำรวจเมืองใหญ่มักพิจารณาจาก การรวมเขตเมือง (urban agglomeration) และการเติบโตของประชากร

3. เหตุผลที่ทำให้โตเกียวมีพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในโลก

🟡 ประวัติศาสตร์การพัฒนา ตั้งแต่ยุคเอโดะ โตเกียวเป็นศูนย์กลางการปกครองและเศรษฐกิจ และยังขยายตัวต่อเนื่องในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการพัฒนาที่ดินและอุตสาหกรรม

🟡 ระบบขนส่งมวลชน โตเกียวมีระบบขนส่งที่ครอบคลุมที่สุดในโลก เช่น เครือข่ายรถไฟใต้ดินและชินคันเซ็น ทำให้การเดินทางระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ในมหานครสะดวกและรวดเร็ว

🟡 ศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติ สถาบันการเงิน และศูนย์กลางวัฒนธรรมที่ดึงดูดประชากรจากทั่วประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

🟡 ความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่เมือง มีประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้เขตเมืองขยายออกไปยังปริมณฑล

4. หน่วยงานที่สำรวจข้อมูล

🟡 UN Department of Economic and Social Affairs (DESA) จัดทำรายงานเกี่ยวกับประชากรเมืองทั่วโลก เช่น “World Urbanization Prospects”

🟡 World Bank รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เมืองใหญ่และการเติบโตของประชากร

🟡 Demographia เผยแพร่การจัดอันดับพื้นที่เมืองใหญ่ในโลกประจำปี โดยพิจารณาจากจำนวนประชากรและพื้นที่เขตเมือง

🟡 OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของเขตเมือง

โตเกียวมีพื้นที่เมืองใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากการผสมผสานระหว่างจำนวนประชากรที่หนาแน่นในเขตเมือง การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงพื้นที่โดยรอบเข้าไว้ด้วยกัน การสำรวจข้อมูลนี้ดำเนินการโดยองค์กรระดับนานาชาติที่เชื่อถือได้ เช่น UN และ World Bank ซึ่งใช้เกณฑ์การวัดที่ครอบคลุมด้านประชากร การใช้พื้นที่ และเศรษฐกิจเมือง

.

เที่ยวโตเกียว แล้วคุณรู้ไหมว่าความเจริญของโตเกียวนั้นอยู่ระดับแนวหน้าของโลกเลยนะ และมีสิ่งที่บ่งบอกถึงเทคโนโลยีและความเจริญของโตเกียว

ความเจริญของโตเกียว ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก โดยมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยที่สุด โตเกียวเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างลงตัว จึงทำให้เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญในระดับโลก และนี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเจริญและเทคโนโลยีของโตเกียว

1. ระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยและครอบคลุม

รถไฟและรถไฟใต้ดิน

🟤 โตเกียวมีระบบรถไฟใต้ดินที่ซับซ้อนและมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น สาย JR, Tokyo Metro, และ Toei Subway

🟤 การเดินรถมีความแม่นยำสูง โดยเฉลี่ยคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 นาที

ชินคันเซ็น (Shinkansen) รถไฟความเร็วสูงที่สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชื่อมโยงโตเกียวกับเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่น

เทคโนโลยีการชำระเงิน การใช้บัตร IC เช่น Suica และ Pasmo สำหรับการเดินทาง รวมถึงการซื้อสินค้าในร้านค้าทั่วไป

.

2. โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยที่สุด

อาคารสูงและหอคอยทันสมัย

🟤 หอคอยโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) สูง 634 เมตร เป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในโลกและเป็นศูนย์กลางการสื่อสารและการท่องเที่ยว

🟤 อาคารโตเกียวมิดทาวน์ (Tokyo Midtown) และรปปงหงิฮิลส์ (Roppongi Hills) เป็นตัวอย่างของศูนย์การค้าที่หรูหราและทันสมัย

ระบบป้องกันแผ่นดินไหว อาคารในโตเกียวนั้นได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว เช่น ระบบฐานยืดหยุ่น (Base Isolation) และโครงสร้างที่ปรับสมดุลแรงสั่นสะเทือน

3. เทคโนโลยีขั้นสูงในชีวิตประจำวัน

🟤 หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีการใช้งานหุ่นยนต์ในโรงแรม สนามบิน และร้านค้า เช่น หุ่นยนต์ต้อนรับลูกค้าในร้านค้าปลีก

🟤 สมาร์ทซิตี้ (Smart City) การพัฒนาระบบสมาร์ทซิตี้ เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับการจราจร ระบบเก็บข้อมูลพลังงาน และการบริหารจัดการขยะ

🟤 IoT (Internet of Things) บ้านอัจฉริยะที่ควบคุมไฟฟ้า อุณหภูมิ และระบบรักษาความปลอดภัยผ่านสมาร์ทโฟน

🟤 5G และเทคโนโลยีการสื่อสาร โตเกียวเป็นผู้นำด้านการใช้เครือข่าย 5G ที่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ

4. ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินระดับโลก

🟤 ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange) เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในแง่ของมูลค่าตลาด

🟤 สำนักงานใหญ่บริษัทระดับโลก โตเกียวเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทชั้นนำ เช่น Sony, Toyota, SoftBank, และ Mitsubishi

5. การวิจัยและพัฒนา (R&D)

🟤 มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) และสถาบันเทคโนโลยีโตเกียว (Tokyo Institute of Technology) เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง

🟤 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และหุ่นยนต์ บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้นำในด้านการผลิตหุ่นยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด

6. วัฒนธรรมดิจิทัลและความบันเทิง

🟤 แหล่งเทคโนโลยีในย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยี มังงะ อนิเมะ และเกม

🟤 VR และ AR ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และเสริมจริง (AR) ในแหล่งบันเทิงและพิพิธภัณฑ์

🟤 E-Sports โตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดงาน E-Sports และมีศูนย์การแข่งขันเกมระดับโลก

.

7. ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม

🟤 พลังงานสะอาด โตเกียวพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมสำหรับการใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม

🟤 เมืองสีเขียว สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เช่น สวนโยโยงิ (Yoyogi Park) และสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) สร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและเทคโนโลยี

🟤 การจัดการขยะ โตเกียวมีระบบรีไซเคิลขยะที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการเผาขยะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ

ความเจริญของโตเกียวแสดงออกผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัย การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง และความสามารถในการผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว โตเกียวจึงเป็นต้นแบบของเมืองที่มีความก้าวหน้าในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีเลยทีเดียว

.

เที่ยวโตเกียว เอาล่ะเมื่อรู้จักโตเกียวแล้ว เราไปเที่ยวกันเลย!

โตเกียวเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ช้อปปิ้ง หรือความบันเทิง นี่คือสถานที่เด่น ๆ ที่ควรต้องไปเมื่อเยือนโตเกียว

.

หมวด วัดและศาลเจ้าที่สำคัญ

1 วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) หรือที่รู้จักในชื่อวัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในโตเกียว ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 628 ตามตำนานเล่าว่า ชาวประมงสองพี่น้องได้พบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในแม่น้ำสุมิดะ และชาวบ้านได้นำมาประดิษฐานเป็นที่เคารพบูชา ภายหลังมีการสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในพื้นที่ วัดนี้มีสัญลักษณ์เด่นคือประตูคามินาริมง (Kaminarimon Gate) ที่มีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ พร้อมกับถนนนากามิเสะที่เต็มไปด้วยร้านค้าและของฝาก วัดเซ็นโซจิถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาให้มาอธิษฐานขอพร โดยเฉพาะในด้านความโชคดี สุขภาพ และความมั่งคั่ง ทำให้วัดนี้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อเยือนโตเกียว

.

✳️ วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa)

✳️ จุดเด่น ประตูคามินาริมง (Kaminarimon Gate) และโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่

✳️ บริเวณใกล้เคียง ถนนนากามิเสะ (Nakamise Street) เต็มไปด้วยร้านของฝากและอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

พิกัด คลิก

.

2 ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่จักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปญี่ปุ่นสู่ยุคใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1920 หลังการสวรรคตของจักรพรรดิเมจิ และตั้งอยู่ในเขตป่ากลางเมืองโตเกียวใกล้สวนโยโยงิ พื้นที่ศาลเจ้าประกอบด้วยป่าเขียวขจีที่ปลูกโดยประชาชนจากทั่วประเทศเพื่อแสดงความเคารพ ภายในมีสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่สง่างามในสไตล์ชินโต ซึ่งสะท้อนความศักดิ์สิทธิ์และความสงบ ศาลเจ้าเมจิเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้คนมาสักการะเพื่อขอพร โดยเฉพาะในวันขึ้นปีใหม่และโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงานแบบญี่ปุ่น และยังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมในใจกลางเมืองโตเกียว

.

✳️ ศาลเจ้าชินโตที่อุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็ง

✳️ ตั้งอยู่ในป่ากลางเมืองใกล้สวนโยโยงิ (Yoyogi Park)

✳️ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน 

พิกัด  คลิก

.

หมวด สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

3 พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโตเกียว บนพื้นที่เดิมของปราสาทเอโดะ ซึ่งเป็นที่พำนักของโชกุนโทกุงาวะในยุคเอโดะ พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1868 หลังจากที่ราชวงศ์ย้ายจากเกียวโตมายังโตเกียวพร้อมกับการปฏิรูปเมจิ ปัจจุบันพระราชวังเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น พื้นที่โดยรอบพระราชวังประกอบด้วยสวนสาธารณะและคูน้ำที่งดงาม พร้อมด้วยสะพานนิจูบาชิ (Nijubashi) ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม แม้ว่าพระราชวังส่วนใหญ่จะปิดให้สาธารณชนเข้าชม แต่ในบางโอกาสพิเศษ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิ ประชาชนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ พระราชวังอิมพีเรียลจึงเป็นทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสัญลักษณ์แห่งความต่อเนื่องของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในยุคสมัยใหม่

.

✳️ ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น

✳️ สามารถเดินชมสวนด้านนอก (East Garden) ได้ฟรี

✳️ สถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และจุดถ่ายภาพยอดนิยม

พิกัด คลิก

.

4 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1872 ตั้งอยู่ในสวนอุเอโนะ (Ueno Park) กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายในการเก็บรักษาและจัดแสดงศิลปวัตถุที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชีย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกเป็นอาคารหลายแห่ง แต่ละแห่งจัดแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกัน เช่น ศิลปะญี่ปุ่นโบราณ ชุดเกราะซามูไร ภาพวาด และงานหัตถกรรม นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียวถือเป็นศูนย์กลางของการศึกษาและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมในระดับสากล

.

✳️ ตั้งอยู่ในอุเอโนะ (Ueno)

✳️ แหล่งรวมศิลปะและโบราณวัตถุของญี่ปุ่น เช่น ชุดเกราะซามูไรและภาพเขียนเก่าแก่

พิกัด คลิก

.

หมวด ย่านช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิง

5 ย่านชิบูย่า (Shibuya) เป็นศูนย์กลางทางแฟชั่น วัฒนธรรมวัยรุ่น และความบันเทิงในกรุงโตเกียว มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจาก ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ซึ่งเป็นจุดข้ามถนนที่พลุกพล่านที่สุดในโลก สะท้อนถึงจังหวะชีวิตที่คึกคักและมีเสน่ห์ของโตเกียว ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านค้า แบรนด์แฟชั่นระดับโลก ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่มีบรรยากาศหลากหลาย เช่น ย่านช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ไก (Center Gai) ซึ่งเป็นแหล่งรวมแฟชั่นวัยรุ่นและสินค้าแนวสตรีท ใกล้เคียงยังมี รูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko Statue) ที่ตั้งอยู่หน้า Shibuya Station อันเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และเป็นจุดนัดพบยอดนิยม ชิบูย่ายังเป็นแหล่งรวมไนต์ไลฟ์ ร้านอาหารฟิวชัน และคอนเซปต์สโตร์ที่น่าสนใจ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโตเกียว

.

✳️ จุดเด่น ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) ที่คึกคักและเป็นที่ถ่ายภาพยอดนิยม

✳️ ใกล้เคียง รูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko Statue) สุนัขผู้ซื่อสัตย์

พิกัด คลิก

.

6 ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) เป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นวัยรุ่นและวัฒนธรรมป๊อปที่โดดเด่นในกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ระหว่างชิบูย่าและชินจูกุ โดยมีถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) เป็นหัวใจหลักของย่านนี้ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าเสื้อผ้าแนวสตรีท ร้านของหวาน เช่น เครปและขนมแปลกใหม่ รวมถึงร้านขายสินค้าตกแต่งและสินค้าแฟชั่นหลากสไตล์ ฮาราจูกุเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งกำเนิดของแฟชั่นหลากสีสันและแนวสตรีทแบบญี่ปุ่น เช่น สไตล์โลลิต้าและคอสเพลย์ ใกล้เคียงยังมีสวนโยโยงิ (Yoyogi Park) และศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ซึ่งเป็นสถานที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อนจากความคึกคักของเมือง ย่านนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของโตเกียวในแง่มุมที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์

.

✳️ ศูนย์รวมแฟชั่นวัยรุ่นและร้านค้าแปลกใหม่

✳️ ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street): แหล่งของหวานและแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร

พิกัด คลิก

.

7 ย่านกินซ่า (Ginza) เป็นย่านช้อปปิ้งและแหล่งรวมความหรูหราที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโตเกียว โดดเด่นด้วยถนนสายหลักที่เรียงรายไปด้วยแบรนด์เนมระดับโลก ร้านบูติกดีไซเนอร์ ร้านเครื่องประดับ และห้างสรรพสินค้าหรู เช่น Ginza Six และ Mitsukoshi นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารระดับมิชลินและคาเฟ่ที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีระดับ กินซ่ายังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมการแสดง โดยมีโรงละคร Kabuki-za ซึ่งเป็นแหล่งชมศิลปะการแสดงคาบูกิแบบดั้งเดิม บรรยากาศของย่านนี้ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความมีระดับอย่างลงตัว โดยในช่วงสุดสัปดาห์ ถนนสายหลักจะปิดการจราจรกลายเป็นถนนคนเดิน (Pedestrian Paradise) ทำให้ผู้คนสามารถเดินเล่นและช้อปปิ้งได้อย่างสบาย กินซ่าจึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทั้งนักช้อป นักชิม และผู้ที่หลงใหลในความหรูหราและศิลปะวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น

.

✳️ แหล่งช้อปปิ้งหรูหราและแบรนด์ดังระดับโลก

✳️ มีร้านอาหารและคาเฟ่ระดับไฮเอนด์

พิกัด คลิก

.

หมวด สถานที่ชมวิว

8 โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) เป็นหอคอยเหล็กสีแดง-ขาวที่ตั้งอยู่ในย่านมินาโตะ (Minato) ของกรุงโตเกียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 โดยได้แรงบันดาลใจจากหอไอเฟลในปารีส และมีความสูง 333 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โตเกียวทาวเวอร์เป็นสถานที่ชมวิวที่ได้รับความนิยม โดยมีจุดชมวิวสองระดับ ได้แก่ Main Deck (150 เมตร) และ Top Deck (250 เมตร) ซึ่งมอบทัศนียภาพแบบพาโนรามาของโตเกียว และในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ หอคอยนี้ยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ และเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหารภายใน โตเกียวทาวเวอร์เป็นหนึ่งในจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการผสมผสานความงดงามของสถาปัตยกรรมและวิวเมืองที่ตระการตา

.

✳️ หอคอยสีแดงสไตล์ปารีส ตั้งอยู่ในเขตมินาโตะ (Minato)

✳️ ชมวิวแบบพาโนรามาของเมืองและภูเขาไฟฟูจิในวันที่อากาศแจ่มใส

พิกัด คลิก

.

9 โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 634 เมตร ตั้งอยู่ในย่านสุมิดะ (Sumida) กรุงโตเกียว เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 2012 เพื่อเป็นศูนย์กระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุดิจิทัล รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ หอคอยแห่งนี้มีจุดชมวิวหลักสองจุดคือ Tembo Deck ที่ความสูง 350 เมตร และ Tembo Galleria ที่ความสูง 450 เมตร ซึ่งมอบมุมมองที่งดงามของโตเกียวแบบ 360 องศา โดยในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ภายในยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ครบครัน โตเกียวสกายทรียังเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีและความทันสมัยของญี่ปุ่น และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

.

✳️ หอคอยที่สูงที่สุดในโลก (634 เมตร)ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 แม้ว่าจะมีการก่อสร้างอาคารและตึกระฟ้าที่มีความสูงมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในหมวดหมู่ของหอคอย โตเกียวสกายทรียังคงครองตำแหน่งสูงสุดจนถึงปัจจุบัน 

✳️ จุดชมวิวมีความสูงกว่า 450 เมตร และเป็นแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร

พิกัด คลิก

.

หมวด สวนและธรรมชาติ

10 สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และงดงามในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 58.3 เฮกตาร์และมีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคเอโดะ เดิมเป็นที่ดินของตระกูลไดเมียว และต่อมาในยุคเมจิได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนของราชวงศ์ญี่ปุ่น ก่อนจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สวนแห่งนี้มีการออกแบบใน 3 สไตล์ คือ สวนญี่ปุ่นดั้งเดิม สวนสไตล์ฝรั่งเศส และสวนสไตล์อังกฤษ โดยจุดเด่นของสวนคือความงดงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เช่น ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และดอกไม้หลากสีในฤดูร้อน สวนชินจูกุเกียวเอ็นเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการพักผ่อน ชมดอกไม้ และถ่ายภาพ อีกทั้งยังเงียบสงบแม้อยู่ใจกลางเมือง ทำให้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสความงามของธรรมชาติในโตเกียว

.

✳️ สวนขนาดใหญ่ที่มีทั้งสวนญี่ปุ่น สวนอังกฤษ และสวนฝรั่งเศส

✳️ ชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

พิกัด คลิก

.

11 สวนโยโยงิ (Yoyogi Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ใกล้ศาลเจ้าเมจิและย่านฮาราจูกุ มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 54 เฮกตาร์ และถือเป็นหนึ่งในสวนที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เดิมพื้นที่นี้เคยถูกใช้เป็นสนามบินฮานดะแห่งแรกของญี่ปุ่น และสถานที่ตั้งของหมู่บ้านโอลิมปิกในปี ค.ศ. 1964 ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะในปัจจุบัน สวนโยโยงิเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับการพักผ่อน ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือปิกนิก อีกทั้งยังเป็นจุดรวมตัวของกลุ่มที่สนใจดนตรี การเต้นรำ และศิลปะการแสดง บรรยากาศภายในสวนมีทั้งพื้นที่ป่าไม้ สนามหญ้า และสระน้ำขนาดเล็ก ทำให้สวนแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติหรือใช้เวลาสบาย ๆ กับครอบครัวและเพื่อนฝูงในใจกลางเมืองที่คึกคักอย่างโตเกียว

.

✳️ แหล่งพักผ่อนยอดนิยมสำหรับคนท้องถิ่น

✳️ ใกล้ศาลเจ้าเมจิและย่านฮาราจูกุ

พิกัด คลิก

.

หมวด สถานที่เฉพาะกลุ่ม

12 อากิฮาบาระ (Akihabara) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อากิบะ” เป็นย่านที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และวัฒนธรรมโอตาคุ ตั้งอยู่ในเขตไทโตะ กรุงโตเกียว ย่านนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองจากการเป็นแหล่งขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และต่อมาได้กลายเป็นศูนย์รวมของการ์ตูน (มังงะ) อนิเมะ เกม และสินค้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมป๊อปแบบญี่ปุ่น ภายในย่านมีร้านค้าขนาดใหญ่ เช่น Yodobashi Camera และร้านเฉพาะทางที่จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มือสอง สินค้าหายาก รวมถึงเมดคาเฟ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอากิฮาบาระ นอกจากนี้ยังมีร้านเกมอาร์เคดขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งรวมตัวของผู้ชื่นชอบการคอสเพลย์และวัฒนธรรมโอตาคุ ย่านนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเทคโนโลยีและวัฒนธรรมสมัยใหม่ของญี่ปุ่น

.

✳️ แหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เกม การ์ตูน และอนิเมะ

✳️ มีร้านเมดคาเฟ่และกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมโอตาคุ

พิกัด คลิก

.

13 ตลาดปลาสึคิจิ (Tsukiji Outer Market) เป็นตลาดอาหารทะเลและของสดชื่อดังในโตเกียว ซึ่งยังคงเป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดใหม่หลังจากการย้ายตลาดค้าส่งหลักไปที่โทโยสุในปี ค.ศ. 2018 ตลาดด้านนอกนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานที่เดิมของตลาดปลาสึคิจิ และเต็มไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ ร้านอาหาร และแผงขายของที่หลากหลาย โดยมีสินค้าเด่นอย่างปลาดิบ ซูชิ ปลาหมึก และอาหารทะเลสดใหม่ รวมถึงของฝากและอุปกรณ์ครัวญี่ปุ่น ตลาดนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่ต้องการลิ้มรสอาหารสดคุณภาพดีในบรรยากาศแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ตลาดปลาสึคิจิยังเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นและเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่ผูกพันกับอาหารทะเลอย่างแท้จริง

.

✳️ ลิ้มรสซูชิและอาหารทะเลสดใหม่

✳️ แหล่งซื้อของฝากเกี่ยวกับอาหาร

พิกัด คลิก

.

14 โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะเทียมในอ่าวโตเกียวที่ถูกพัฒนาขึ้นในยุค 1990 และกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โอไดบะเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิง เช่น ห้าง DiverCity Tokyo Plaza ที่มีหุ่นกันดั้มขนาดยักษ์ Rainbow Bridge ที่เป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ และ TeamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง Tokyo Joypolis สวนสนุกในร่ม สถานที่ชมวิวอย่าง Odaiba Marine Park และสถานที่พักผ่อนริมทะเลอย่าง Aqua City Odaiba และ Palette Town โอไดบะจึงเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาทั้งวันกับกิจกรรมที่หลากหลายและบรรยากาศที่ผ่อนคลายบนเกาะทันสมัยแห่งนี้

.

✳️ เกาะเทียมที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า สวนสนุก และหุ่นกันดั้มขนาดใหญ่

พิกัด คลิก

.

จุดเด่นอื่น ๆ

15 โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) และโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เป็นสวนสนุกระดับโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองอุรายาสุ จังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1983 และเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่สร้างนอกสหรัฐอเมริกา โตเกียวดิสนีย์แลนด์มีธีมที่เน้นไปที่ความมหัศจรรย์และตัวละครดิสนีย์อันโด่งดัง เช่น ปราสาทซินเดอเรลล่าและดินแดนต่าง ๆ เช่น Adventureland และ Fantasyland ในขณะที่โตเกียวดิสนีย์ซี ซึ่งเปิดในปี ค.ศ. 2001 มีธีมที่ไม่เหมือนใคร โดยเน้นไปที่การผจญภัยในทะเล เช่น เมืองท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน ลากูนเงือก และภูเขาไฟกลางน้ำ สวนสนุกทั้งสองแห่งมีเครื่องเล่นที่ทันสมัย การแสดงสด ร้านอาหาร และบรรยากาศที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ชื่นชอบดิสนีย์ โตเกียวดิสนีย์ซีได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสวนสนุกดิสนีย์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลก ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย

.

✳️ สวนสนุกระดับโลก เหมาะสำหรับครอบครัวและคนรักการ์ตูน

✳️ ดิสนีย์ซีมีธีมที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก

พิกัด คลิก

.

16 ย่านชินจูกุ (Shinjuku) เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักและหลากหลายที่สุดในโตเกียว เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การช้อปปิ้ง และความบันเทิง โดยมีสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่พลุกพล่านที่สุดในโลกเป็นจุดเชื่อมต่อหลักของเมือง ย่านนี้แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้มาเยือนทุกประเภท เช่น เขตตึกระฟ้าที่มีสำนักงานบริษัทและโรงแรมหรู โซนช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Isetan และ Takashimaya รวมถึงย่านไนต์ไลฟ์ในคาบุกิโจ (Kabukicho) ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร บาร์ และสถานบันเทิง ย่านชินจูกุยังเป็นที่ตั้งของสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวาย และ Tokyo Metropolitan Government Building ที่มีจุดชมวิวฟรีสำหรับมองเห็นทัศนียภาพของเมือง ชินจูกุจึงเป็นย่านที่ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมหลากหลายได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับการสำรวจในทุกช่วงเวลา

.

✳️ แหล่งรวมร้านอาหาร บาร์ และสถานบันเทิงกลางคืน เช่น คาบูกิโจ

✳️ มีสวนดาดฟ้าชมวิวที่ Tokyo Metropolitan Government Building

พิกัด คลิก

โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ แฟชั่น หรือเทคโนโลยี การเดินทางสะดวกและเต็มไปด้วยกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ไม่เหมือนใคร

.

Tips การเที่ยวให้มีความสุขเล็กๆน้อยๆจากเรา

เที่ยวโตเกียว การเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ให้มีความสุขและประสบการณ์ที่น่าจดจำควรเริ่มต้นจากการวางแผนที่ดี โดยเลือกสถานที่ที่เหมาะกับความสนใจและเวลาเที่ยวที่เหมาะสม จัดเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ แต่งกายตามสภาพอากาศ และเตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น แผนที่หรือแอปพลิเคชันนำทาง หากเป็นต่างประเทศควรศึกษาวัฒนธรรมและกฎระเบียบในพื้นที่ล่วงหน้า สำหรับการเดินทางให้ตรวจสอบตารางเวลาและวิธีการเดินทางให้ชัดเจน เช่น การใช้บัตรโดยสารรถไฟหรือรถประจำทาง เพื่อความสะดวกในการเดินทางระหว่างจุดหมาย ระหว่างเที่ยวให้แบ่งเวลาอย่างยืดหยุ่น เผื่อสำหรับการพักผ่อนและการสำรวจสถานที่แบบผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงการเร่งรีบมากเกินไป และที่สำคัญควรรักษามารยาทและเคารพสถานที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับตัวเองและผู้อื่นในระหว่างการเดินทาง

เที่ยวโตเกียว การเดินทางในโตเกียวเต็มไปด้วยเสน่ห์และประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมในวัดและศาลเจ้า ชมวิวเมืองทันสมัยจากหอคอยสูง หรือเพลิดเพลินกับอาหารและแหล่งช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร ทุกจุดหมายปลายทางล้วนมีเอกลักษณ์ที่น่าค้นหา หากเตรียมตัวพร้อมและเดินทางด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง คุณจะได้พบกับความสุขและความทรงจำที่ยากจะลืมในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้อย่างแน่นอน

>> 5ข้อควรรู้ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ คลิก

>>ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ช่องทางนี้ คลิก

“เรามุ่งมั่นที่จะทำทัวร์ท่องเที่ยวให้แตกต่างจากทั่วไป สถานที่ที่คุณจะได้ไปนั้นนอกจากจะได้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปกับเราแล้วเรายังเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับคุณอีกด้วย กับแผนการเดินทางที่แตกต่างและไม่จำเจเหมือนกับทั่วๆไป อีกทั้งคุณยังได้รับการดูแลและมีบริการที่แตกต่าง ให้คุณเปรียบเสมือนคนพิเศษ ให้ได้รู้สึกสัมผัสการไปเที่ยวไม่เหมือนใคร และจะประทับใจแบบไม่มีทางลืมได้เลย..” คุณสามารถติดต่อหาเราได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เพื่อเลือกเคมเปญที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ

💬 ติดต่อเราได้เลย!

• • • • โทรด่วนได้ที่ 082-036-5184
      • ส่งภาพหน้างานและพูดคุยได้ที่ Line
        
        
      • Email : spregaltravel@hotmail.com
      • ติดตามเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/spregaltravel/